นโยบายความเป็นส่วนตัว กรอกแบบฟอร์ม

ต้องทำยังไงบ้าง

1. เลือกแบบฟอร์มนี้

เริ่มต้นโดยการคลิกที่ "กรอกแบบฟอร์ม"

1 / เลือกแบบฟอร์มนี้

2. กรอกเอกสาร

ตอบคำถามบางข้อแล้วเอกสารของคุณก็จะถูกสร้างขึ้นเองโดยอัตโนมัติ

2 / กรอกเอกสาร

3. บันทึก - พิมพ์

เอกสารของคุณพร้อมแล้ว คุณจะได้รับเอกสารดังกล่าวในรูปแบบ Word และ PDF ซึ่งคุณสามารถทำการแก้ไขได้

3 / บันทึก - พิมพ์

ตัวเลือกพิเศษสำหรับการปรึกษาทนายความ

คุณสามารถเลือกที่จะขอรับความช่วยเหลือจากทนายความได้หลังจากกรอกเอกสารเสร็จแล้ว

ตัวเลือกพิเศษสำหรับการปรึกษาทนายความ

นโยบายความเป็นส่วนตัว

ปรับปรุงล่าสุด ปรับปรุงล่าสุด เมื่อ 2 สัปดาห์ที่แล้ว
รูปแบบ รูปแบบWord และ PDF
ขนาด ขนาด29 ถึง 44 หน้า
กรอกแบบฟอร์ม

ปรับปรุงล่าสุดปรับปรุงล่าสุด เมื่อ 2 สัปดาห์ที่แล้ว

รูปแบบรูปแบบที่มีให้ Word และ PDF

ขนาดขนาด 29 ถึง 44 หน้า

ตัวเลือก ความช่วยเหลือจากทนายความ

กรอกแบบฟอร์ม

นโยบายความเป็นส่วนตัวคืออะไร

นโยบายความเป็นส่วนตัว (Privacy Policy) หรือนโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล คือ เอกสารที่กำหนดสิทธิ/หน้าที่เกี่ยวกับการเก็บรวบรวม/ใช้/เผยแพร่ข้อมูลส่วนบุคคลของผู้ใช้งานเว็บไซต์/แอปพลิเคชัน


นโยบายความเป็นส่วนตัวและข้อกำหนดและเงื่อนไขการใช้งานเว็บไซต์/แอปพลิเคชันแตกต่างกัน อย่างไร

แม้เอกสารทั้ง 2 ฉบับจะเป็นข้อตกลงที่กำหนดสิทธิและหน้าที่ระหว่างผู้ให้บริการและผู้ใช้งานเว็บไซต์/แอปพลิเคชันเหมือนกัน แต่เอกสารทั้ง 2 มีความแตกต่างกันในด้านขอบเขต ดังต่อไปนี้

  • นโยบายความเป็นส่วนตัวจะกำหนดสิทธิและหน้าที่เกี่ยวกับการเก็บรวบรวม ใช้ เปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลโดยเฉพาะ
  • ข้อกำหนดและเงื่อนไขการใช้งานเว็บไซต์/แอปพลิเคชันจะกำหนดสิทธิและหน้าที่เกี่ยวกับการใช้งานเว็บไซต์/แอปพลิเคชันในทุกด้านและเป็นการทั่วไป เช่น ข้อจำกัดการใช้งาน การเป็นสมาชิก เงื่อนไขการขายหรือให้บริการผ่านเว็บไซต์/แอปพลิเคชัน การจำกัดความรับผิด ค่าใช้จ่าย/ค่าบริการ กฎ ระเบียบ และข้อห้าม การลงโทษผู้ใช้งานที่ฝ่าฝืนกฎ/ระเบียบ รวมถึง การเก็บรวบรวม/ใช้ข้อมูลส่วนบุคคล (ถ้ามี)


จำเป็นต้องทำนโยบายความเป็นส่วนตัว หรือไม่

จำเป็น ในกรณีที่เว็บไซต์/แอปพลิเคชันมีการเก็บรวบรวม ใช้ และ/หรือเผยแพร่ข้อมูลส่วนบุคคลของผู้ใช้งาน ทั้งนี้ เพื่อให้เป็นไปตามกฎหมาย (เช่น การประกาศ/แจ้งให้ผู้ใช้งานทราบและขอความยินยอมเกี่ยวกับข้อมูลส่วนบุคคลจากผู้ใช้งานเจ้าของข้อมูล)

ผู้ใช้งานสามารถศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ คู่มือทางกฎหมาย: ทำไมเจ้าของ/ผู้ให้บริการเว็บไซต์หรือแอปพลิเคชันจำเป็นต้องมีนโยบายความเป็นส่วนตัว (Privacy Policy)


ข้อมูลส่วนบุคคลคืออะไร

ข้อมูลส่วนบุคคล คือ ข้อมูลที่สามารถระบุตัวบุคคลเจ้าของข้อมูลนั้นได้ ไม่ว่าจะเป็น

  • ข้อมูลส่วนบุคคลทั่วไป เช่น ชื่อ นามสกุล ที่อยู่ วันเดือนปีเกิด เบอร์โทรศัพท์ อายุ วุฒิการศึกษา งาน/อาชีพ ภาพถ่าย
  • ข้อมูลส่วนบุคคลที่มีความอ่อนไหว (Sensitive Data) เช่น เชื้อชาติ เผ่าพันธุ์ ความคิดเห็นทางการเมือง ความเชื่อ (ลัทธิ ศาสนา ปรัชญา) พฤติกรรมทางเพศ ประวัติอาชญากรรม สุขภาพ ความพิการ พันธุกรรม ข้อมูลชีวภาพ ข้อมูลภาพจำลองใบหน้า ม่านตา หรือลายนิ้วมือ สหภาพแรงงาน


ไม่ควรระบุ/กำหนดข้อมูลลักษณะใดลงในนโยบายความเป็นส่วนตัว

ผู้ให้บริการเว็บไซต์/แอปพลิเคชันไม่ควรระบุ/กำหนดข้อตกลงที่ขัดต่อกฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลลงในนโยบายความเป็นส่วนตัว เช่น

  • ต้องได้รับความยินยอมอย่างชัดแจ้งจากเจ้าของข้อมูลนั้นก่อนจะดำเนินการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเผยแพร่ข้อมูลดังกล่าว
  • ต้องระบุข้อมูลสำคัญในการขอความยินยอมเก็บรวบรวม ใช้ หรือเผยแพร่ข้อมูล (เช่น วัตถุประสงค์การนำข้อมูลไปใช้ ระยะเวลาในการเก็บรวบรวมข้อมูล หน่วยงานที่อาจได้รับการเปิดเผยข้อมูล สิทธิของเจ้าของข้อมูลเกี่ยวกับข้อมูลส่วนบุคคลที่ถูกเก็บ)


นโยบายความเป็นส่วนตัวเกี่ยวข้องกับใครบ้าง

บุคคลที่เกี่ยวข้องกับการจัดทำนโยบายความเป็นส่วนตัว ได้แก่

  • ผู้ให้บริการเว็บไซต์/แอปพลิเคชัน (เช่น เจ้าของเว็บไซต์/แอปพลิเคชันซึ่งมีการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล) ซึ่งเป็นผู้ควบคุมข้อมูลตามกฎหมายและมีหน้าที่ต้องปฏิบัติตามกฎหมายอย่างเคร่งครัด
  • ผู้ใช้งานเว็บไซต์/แอปพลิเคชันเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล (เช่น ผู้ที่เข้ามาเเยี่ยมชม ใช้งาน หรือเป็นสมาชิกเว็บไซต์/แอปพลิเคชัน) ซึ่งเป็นผู้ได้รับความคุ้มครองตามกฎหมาย
  • เจ้าหน้าที่คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล (ถ้ามี) ในกรณีที่ผู้ให้บริการต้องจัดให้มีตามกฎหมาย (เช่น การเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลเป็นจำนวนมาก/Big Data หรือข้อมูลส่วนบุคคลที่มีความอ่อนไหว/Sensitive Data)


จะต้องทำอย่างไรต่อหลังจากที่จัดทำนโยบายความเป็นส่วนตัวแล้ว

เมื่อจัดทำนโยบายความเป็นส่วนตัวเรียบร้อยแล้ว ผู้ให้บริการเว็บไซต์/แอปพลิเคชันอาจพิจารณาดำเนินการ ดังต่อไปนี้

  • จัดให้ผู้ใช้งานเว็บไซต์/แอปพลิเคชันสามารถเข้าถึงนโยบายความเป็นส่วนตัวได้โดยง่ายเพื่อศึกษาและให้ความยินยอม เช่น เผยแพร่ไว้ที่หน้าเว็บไซต์/แอปพลิเคชัน นำส่งทางอิเล็กทรอนิกส์ (เช่น การส่งจดหมายอิเล็กทรอนิกส์/e-mail)
  • ให้ผู้ใช้งานศึกษาและตอบยอมรับนโยบายความเป็นส่วนตัวก่อนการใช้งานเว็บไซต์/แอปพลิเคชันครั้งแรก (เช่น การลงนามด้วยวิธีอิเล็กทรอนิกส์/e-Signature) เพื่อเป็นการแสดงถึงความยินยอมและความตกลงที่จะยอมรับปฏิบัติตามเงื่อนไขของนโยบายความเป็นส่วนตัวโดยชัดแจ้ง

ผู้ใช้งานสามารถศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ คู่มือทางกฎหมาย: การลงนามสัญญาด้วยวิธีอิเล็กทรอนิกส์ (e-Signature) ต้องทำอย่างไร

  • จัดเก็บนโยบายความเป็นส่วนตัวและหลักฐานการให้ยินยอมจากผู้ใช้งานนั้นไว้ ณ สถานประกอบกิจการหรือสำนักงานของผู้ให้บริการเว็บไซต์/แอปพลิเคชันเพื่อการอ้างอิง


นโยบายความเป็นส่วนตัวจำเป็นจะต้องจดทะเบียนกับหน่วยงานของรัฐที่เกี่ยวข้อง หรือไม่

ไม่จำเป็น ผู้ให้บริการเว็บไซต์/แอปพลิเคชันไม่จำเป็นจะต้องดำเนินการจดทะเบียนกับหน่วยงานของรัฐที่เกี่ยวข้องใดๆ ในการจัดทำนโยบายความเป็นส่วนตัว


ผู้ให้บริการเว็บไซต์/แอปพลิเคชันมีหน้าที่และข้อควรคำนึงตามกฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลอย่างไรบ้าง

ผู้ให้บริการเว็บไซต์/แอปพลิเคชันซึ่งมีการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเผยแพร่ข้อมูลส่วนบุคคลของผู้ใช้งานถือว่าเป็นผู้ควบคุมข้อมูลตามกฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลซึ่งมีหน้าที่ต้องปฏิบัติอย่างเคร่งครัด เช่น

  • ต้องได้รับความยินยอมอย่างชัดแจ้งจากผู้ใช้งานเว็บไซต์/แอปพลิเคชันเจ้าของข้อมูลนั้นก่อนจะดำเนินการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเผยแพร่ข้อมูลดังกล่าว โดยจะต้องระบุข้อมูลสำคัญในการขอความยินยอม (เช่น วัตถุประสงค์การนำข้อมูลไปใช้ ระยะเวลาในการเก็บรวบรวมข้อมูล หน่วยงานที่อาจได้รับการเปิดเผยข้อมูล สิทธิของเจ้าของข้อมูลเกี่ยวกับข้อมูลส่วนบุคคลที่ถูกเก็บรวบรวม)
  • ในการให้ความยินยอมของบุคคลที่มีความบกพร่องทางความสามารถ (เช่น ผู้เยาว์ คนไร้ความสามารถ คนเสมือนไร้ความสามารถ) ผู้ใช้อำนาจปกครองบุคคลเหล่านั้นจะต้องเป็นผู้ให้ความยินยอมแทน เช่น ผู้ปกครอง ผู้อนุบาล หรือผู้พิทักษ์ แล้วแต่กรณี
  • ต้องดำเนินการซึ่งเป็นหน้าที่ต่างๆ ของผู้ควบคุมข้อมูลที่สอดคล้องกับกฎหมาย เช่น จัดให้ผู้ใช้งานเจ้าของข้อมูลสามารถถอนความยินยอมได้ง่ายและได้รับข้อมูลเพียงพอในการถอนความยินยอม การแจ้งข้อมูลผลกระทบสำคัญต่อเจ้าของข้อมูล จัดให้มีวิธี มาตรการ มาตรฐาน หรือระบบรักษาความมั่นคงปลอดภัยของข้อมูลที่เหมาะสม จัดให้มีการแก้ไขปรับปรุงข้อมูลให้เป็นปัจจุบันและ/หรือที่ถูกต้อง ลบ ทำลายข้อมูลที่เกินระยะเวลาเก็บรวบรวมหรือที่ไม่เกี่ยวข้อง บันทึกรายการสำคัญเกี่ยวกับการจัดเก็บ การใช้ หรือการเปิดเผยข้อมูลเพื่อการตรวจสอบ จัดให้มีเจ้าหน้าที่คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลในกรณีที่มีการดำเนินกิจกรรมที่เข้าเงื่อนไข และหน้าที่อื่นๆ
  • ต้องมีมาตรการสำหรับพนักงานผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเผยแพร่ข้อมูล
  • ในกรณีที่มีการให้ข้อมูลแก่บุคคลอื่น (เช่น ผู้ประมวลผลข้อมูล บุคคลภายนอก) จะต้องมีมาตรการควบคุมไม่ให้บุคคลอื่นนั้นใช้ข้อมูลที่ไม่เป็นไปตามกฎหมาย และในกรณีที่มีการส่งข้อมูลออกไปนอกประเทศจะต้องมั่นใจว่าผู้รับข้อมูลนั้นมีมาตรการคุ้มครองความปลอดภัยของข้อมูลที่ไม่ด้อยไปกว่ามาตรฐานที่กำหนดในประเทศไทย

ในกรณีที่ผู้ให้บริการเว็บไซต์/แอปพลิเคชันไม่ปฏิบัติตามกฎหมาย อาจมีโทษทั้งทางแพ่ง (เช่น ชดใช้ค่าเสียหาย/ค่าเสียหายเชิงลงโทษแก่ผู้เสียหาย) โทษทางอาญา (เช่น จำคุก ปรับ) และโทษทางปกครอง (เช่น ดำเนินการแก้ไข ตักเตือน ปรับ) ผู้ใช้งานสามารถศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ คู่มือทางกฎหมาย: ทำไมเจ้าของ/ผู้ให้บริการเว็บไซต์หรือแอปพลิเคชันจำเป็นต้องมีนโยบายความเป็นส่วนตัว (Privacy Policy)


ต้องระบุข้อมูลสำคัญใดบ้างลงในนโยบายความเป็นส่วนตัว

ผู้ให้บริการเว็บไซต์/แอปพลิเคชันควรระบุรายละเอียดและข้อความสำคัญในนโยบายความเป็นส่วนตัว ดังต่อไปนี้

  • เว็บไซต์/แอปพลิเคชัน เช่น ชื่อเว็บไซต์/แอปพลิเคชัน ผู้ให้บริการ/เจ้าของ สถานที่ตั้ง
  • สิทธิ หน้าที่ และความรับผิดชอบเกี่ยวกับข้อมูลส่วนบุคคล เช่น การเก็บรวบรวม ใช้ และ/หรือเผยแพร่ข้อมูลส่วนบุคคล วัตถุประสงค์การนำข้อมูลไปใช้ ระยะเวลาในการเก็บข้อมูล หน่วยงานที่อาจได้รับการเปิดเผยข้อมูล การควบคุมการใช้งานโดยผู้ปกครอง (Parental Control) การใช้คุกกี้ (Cookies)
  • การติดต่อ เช่น ช่องทางการติดต่อสอบถาม การร้องเรียน ถอนความยินยอม และแจ้งปัญหาเกี่ยวกับข้อมูลส่วนบุคคล


กฎหมายใดบ้างที่เกี่ยวข้องกับนโยบายความเป็นส่วนตัว

กฎหมายที่เกี่ยวข้องกับการจัดทำนโยบายความเป็นส่วนตัวมี ดังต่อไปนี้


ความช่วยเหลือจากทนายความ

คุณสามารถเลือกที่จะปรึกษาทนายความได้ในกรณีที่คุณต้องการความช่วยเหลือ

ทนายความสามารถช่วยคุณได้โดยทำการตอบคำถามของคุณหรือให้ความช่วยเหลือในกระบวนการต่าง ๆ จะมีการเสนอตัวเลือกดังกล่าวไว้ให้คุณในตอนท้ายของเอกสาร


แก้ไขแบบฟอร์มได้อย่างไร

คุณกรอกแบบสอบถามสำหรับป้อนข้อมูลแล้วจะเห็นได้ว่าระบบของเราจะค่อย ๆ สร้างเอกสารขึ้นเองโดยอัตโนมัติตามคำตอบที่คุณกรอกเข้าไป

ในตอนสุดท้าย คุณจะได้รับเอกสารในรูปแบบ Word และ PDF คุณสามารถแก้ไขและนำเอกสารไปใช้อีกได้

กรอกแบบฟอร์ม