ในการดำเนินธุรกิจไม่ว่าจะเป็นการดำเนินธุรกิจขนาดเล็ก ขนาดกลาง หรือขนาดใหญ่ และไม่ว่าจะดำเนินธุรกิจในกลุ่มประเภทกิจการหรือในกลุ่มอุตสาหกรรมใด สิ่งที่สำคัญไม่แพ้ปัจจัยอื่นที่ผู้ประกอบธุรกิจจะต้องพิจารณาในการเริ่มดำเนินธุรกิจอย่างหนึ่งก็คือรูปแบบองค์กรธุรกิจที่จะใช้ในการดำเนินธุรกิจนั้นๆ (เช่น บุคคลธรรมดา ห้างหุ้นส่วน หรือบริษัท) โดยแต่ละรูปแบบก็มีลักษณะ ข้อดี ข้อจำกัดที่แตกต่างกันไป เช่น
ผู้ใช้งานอาจศึกษาลักษณะ ข้อดี ข้อจำกัดของแต่ละรูปแบบองค์กรธุรกิจเพิ่มเติมได้จาก คู่มือทางกฎหมาย: รูปแบบองค์กรธุรกิจแบบใดที่เหมาะสมกับลักษณะกิจการของท่านที่สุด (เช่น บุคคลธรรมดา ห้างหุ้นส่วน บริษัท) บนเว็บไซต์ของเรา
ห้างหุ้นส่วน คือ องค์กรธุรกิจประเภทหนึ่งซึ่งเกิดจาก บุคคลธรรมดาตั้งแต่ 2 คนขึ้นไป (เช่น นายสมชายกับนางสมใจ) ตกลงจะเข้าทำกิจการหรือธุรกิจร่วมกัน (เช่น เข้าทำสัญญาเข้าหุ้นส่วน (Partnership Agreement)) โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อแบ่งปันผลกำไรจากการดำเนินกิจการหรือธุรกิจนั้น โดยการตกลงจะเข้าทำกิจการ ธุรกิจร่วมกัน หรือการเข้าหุ้นนั้น ผู้เป็นหุ้นส่วนอาจนำ เงิน ทรัพย์สิน (เช่น อาคาร ที่ดิน อุปกรณ์) หรือแรงงาน (เช่น การทำงานให้กับกิจการ) ของตนมาเข้าหุ้นเพื่อลงทุนและใช้ในการดำเนินกิจการของห้างหุ้นส่วนนั้นก็ได้ อาจกล่าวได้ว่า ห้างหุ้นส่วนก็คือกิจการหรือธุรกิจที่มีเจ้าของตั้งแต่ 2 คนขึ้นไปร่วมกันลงทุนและ/หรือบริหารจัดการกิจการ
โดย ห้างหุ้นส่วนนั้น สามารถ เป็นได้เป็น 3 ประเภท ซึ่งมีวิธีการจัดตั้ง ลักษณะ และข้อจำกัดที่แตกต่างกันไป ดังต่อไปนี้
(ก) ห้างหุ้นส่วนสามัญ
(ข) ห้างหุ้นส่วนสามัญจดทะเบียน
(ค) ห้างหุ้นส่วนจำกัด
สำหรับ ห้างหุ้นส่วนจำกัดนั้น จะมีลักษณะเพิ่มเติม ดังต่อไปนี้
(1) หุ้นส่วนที่จำกัดความรับผิด จะมีการแบ่งแยกความรับผิดระหว่างทรัพย์สินส่วนตัวกับทรัพย์สินที่นำมาเข้าหุ้นในกิจการ และ
(2) หุ้นส่วนไม่จำกัดความรับผิด จะไม่มีการแบ่งแยกหรือจำกัดความรับผิดระหว่างทรัพย์สินส่วนตัวกับทรัพย์สินที่นำมาเข้าหุ้นในกิจการ ซึ่งหุ้นส่วนประเภทนี้เท่านั้นที่สามารถเป็นหุ้นส่วนผู้จัดการของห้างหุ้นส่วนได้
โดยในบทความนี้ จะอธิบายถึงการเริ่มต้นธุรกิจด้วยการจัดตั้งห้างหุ้นส่วนจำกัด
สาเหตุที่ผู้ประกอบธุรกิจเลือกจัดตั้งห้างหุ้นส่วนจำกัดแทนการเลือกใช้รูปแบบองค์กรธุรกิจรูปแบบอื่น อาจด้วยเนื่องจาก
ในการจัดตั้งห้างหุ้นส่วนจำกัด ผู้ประกอบธุรกิจอาจมีข้อพิจารณาในการศึกษาข้อมูล ตัดสินใจ และดำเนินการ ดังต่อไปนี้
ในการตั้งชื่อห้างหุ้นส่วนจำกัด ผู้เป็นหุ้นส่วนอาจศึกษาข้อมูลและตั้งชื่อห้างหุ้นส่วนจำกัดได้ตามที่เจ้าของต้องการ โดยที่อาจตั้งชื่อห้างหุ้นส่วนจำกัดให้สอดคล้องกับชื่อของกิจการหรือชื่อของธุรกิจเพื่อหลีกเลี่ยงความสับสนของคู่ค้าและลูกค้าของกิจการก็ได้
อย่างไรก็ดี ชื่อของห้างหุ้นส่วนจำกัดจะต้องสอดคล้องตามกฎหมาย ระเบียบ และหลักเกณฑ์เกี่ยวกับการตั้งชื่อนิติบุคคล เนื่องจากจะต้องมีการจดทะเบียนจัดตั้งห้างหุ้นส่วนจำกัดกับกรมพัฒนาธุรกิจการค้า เช่น
นอกจากนี้ ชื่อของห้างหุ้นส่วนจำกัดอาจมีข้อจำกัดตามกฎหมายห้างหุ้นส่วน เช่น ชื่อของห้างหุ้นส่วนจำกัดจะต้องไม่ใช้ชื่อของหุ้นส่วนจำพวกจำกัดความรับผิดมาเรียกเป็นชื่อห้างหุ้นส่วน เนื่องจากผู้เป็นหุ้นส่วนจำพวกจำกัดความรับผิดคนนั้นอาจจะต้องรับผิดต่อบุคคลภายนอกเสมือนว่าเป็นหุ้นส่วนจำพวกไม่จำกัดความรับผิด
เมื่อผู้ประกอบธุรกิจตัดสินใจและเลือกชื่อที่จะใช้เป็นชื่อของห้างหุ้นส่วนจำกัดได้แล้ว ผู้เป็นหุ้นส่วน อาจดำเนินการตรวจสอบชื่อนิติบุคคลและจองชื่อนิติบุคคลผ่านระบบฐานข้อมูลของกรมพัฒนาธุรกิจการค้า เพื่อใช้ในการดำเนินการจดทะเบียนห้างหุ้นส่วนจำกัดต่อไป
อนึ่ง ชื่อที่ได้รับจองไว้นั้นจะต้องมีการยื่นจดทะเบียนใช้ชื่อที่จองภายใน 30 วันนับจากวันที่ได้รับจอง
ผู้ใช้งานอาจศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับข้อจำกัดในการใช้ชื่อห้างหุ้นส่วนจำกัดได้จาก คำแนะนำในการตรวจสอบและจองชื่อนิติบุคคลของกรมพัฒนาธุรกิจการค้า และระเบียบสำนักงานทะเบียนหุ้นส่วนบริษัทกลางว่าด้วยการจดทะเบียนห้างหุ้นส่วนและบริษัท
สถานที่ตั้งของกิจการถือเป็นอีกหนึ่งปัจจัยสำคัญในการดำเนินธุรกิจโดยเฉพาะการประกอบธุรกิจทางการค้า (เช่น ขายสินค้าและ/หรือบริการ) นอกจากสถานที่ตั้งของกิจการจะเป็นยุทธศาสตร์ทางธุรกิจของกิจการแล้ว (เช่น การสัญจรของผู้คน ความสะดวกในการเข้าถึง ทำเลที่ตั้ง ความสามารถในการประกอบการค้า) สถานที่ตั้งของกิจการที่จะใช้จดทะเบียนห้างหุ้นส่วนจำกัดนั้นก็จะถือเป็นสำนักงานแห่งใหญ่ของห้างหุ้นส่วนที่จดทะเบียนนั้นด้วย ซึ่งสำนักงานแห่งใหญ่นี้ก็คือที่อยู่ของห้างหุ้นส่วนจำกัดนั่นเอง กล่าวคือเป็นที่อยู่สำหรับการรับ-ส่งเอกสารสำคัญ เอกสารคำบอกกล่าวทางกฎหมายต่างๆ
นอกจากนี้ ในกรณีที่ธุรกิจมีการประกอบกิจการหลายแห่ง อาจพิจารณาจดทะเบียนสถานประกอบกิจการเหล่านั้นเป็นสาขาของห้างหุ้นส่วนจำกัดด้วย
เมื่อผู้ประกอบการต่างๆ มีความชัดเจนที่จะเข้ารวมเป็นหุ้นส่วนกันแล้ว ก็อาจนัดประชุมเจรจารายละเอียดสำคัญต่างๆ ของห้างหุ้นส่วนจำกัด โดยอาจมีประเด็นพิจารณาสำคัญต่างๆ เช่น
ผู้ใช้งานสามารถศึกษาแนวทางการกำหนดวัตถุประสงค์ของห้างหุ้นส่วนจำกัดได้ที่ หลักเกณฑ์การกำหนดวัตถุประสงค์ห้างหุ้นส่วนและบริษัทของกรมพัฒนาธุรกิจการค้า
ผู้ใช้งานอาจจัดทำ รายงานการประชุมทางธุรกิจ เป็นลายลักษณ์อักษรเพื่อให้การประชุมเจรจาห้างหุ้นส่วนมีหลักฐานเป็นหนังสือ และเพื่อใช้เป็นเอกสารประกอบในการจัดทำสัญญาเข้าหุ้นส่วนหรือสัญญาจัดตั้งห้างหุ้นส่วน (Partnership Agreement) ต่อไป
สัญญาเข้าหุ้นส่วนหรือสัญญาจัดตั้งห้างหุ้นส่วน (Partnership Agreement) คือสัญญาที่ผู้เป็นหุ้นส่วนเข้าทำต่อกันเพื่อจัดตั้งห้างหุ้นส่วนขึ้นและกำหนดวิธี หลักเกณฑ์ กฎ ระเบียบต่างๆ ที่ใช้ในการดำเนินกิจการต่างๆ ของห้างหุ้นส่วนนั้นรวมถึงกำหนดความสัมพันธ์ หน้าที่ระหว่างหุ้นส่วนด้วยกันเอง เช่น
แม้กฎหมายห้างหุ้นส่วน แพ่งปละพาณิชย์ได้ไม่กำหนดบังคับให้ห้างหุ้นส่วนจำกัดต้องจดทะเบียน ดวงตราสำคัญหรือตราประทับของห้างหุ้นส่วนไว้ แต่เพื่อเป็นสร้างความน่าเชื่อถือและเพื่อความชัดเจน ห้างหุ้นส่วนควรจัดให้มีดวงตราประทับของห้างหุ้นส่วนและกำหนดให้ตราประทับเป็นเงื่อนไขในการลงนามของหุ้นส่วนผู้จัดการในการลงนามผูกพันทางกฎหมายต่างๆ (เช่น หุ้นส่วนผู้จัดการ 2 คนลงลายมือชื่อและประทับตราสำคัญ) ทั้งนี้ เพื่อความชัดเจนว่าหุ้นส่วนคนดังกล่าวลงนามในนามส่วนตัวหรือในนามของห้างหุ้นส่วน และเพื่อความสอดคล้องกับหลักการร่วมกันบริหารจัดการ
ในกรณีที่ ห้างหุ้นส่วนมีความประสงค์จะจัดให้มีดวงตราประทับของห้างหุ้นส่วนและจดทะเบียนดวงตรานั้น ห้างหุ้นส่วนอาจมีข้อพิจารณาตามหลักเกณฑ์การจัดทำตราของห้างหุ้นส่วนของกรมพัฒนาธุรกิจการค้า ดังต่อไปนี้
(1) เครื่องหมายตรามหาจักรีบรมราชวงศ์
(2) พระบรมราชาภิไธย พระปรมาภิไธยย่อของพระมหากษัตริย์ทุกรัชกาล และ พระนามาภิไธยย่อ ของสมเด็จพระอัครมเหสีหรือสมเด็จพระยุพราช
(3) พระบรมราชสัญลักษณ์ และพระราชสัญลักษณ์ของพระมหากษัตริย์ สมเด็จพระอัครมเหสี และสมเด็จพระยุพราช
(4) พระมหามงกุฎ มงกุฎขัตติยราชนารี หรือเครื่องราชอิสริยาภรณ์อื่นใดที่ใกล้เคียงกับมงกุฎ
(5) ฉัตรต่างๆ อันเป็นลักษณะของเครื่องประกอบพระบรมราชอิสริยยศ
(6) ตราแผ่นดิน ตราราชการ ตราครุฑพ่าห์ ธงหลวง ธงชาติ หรือธงราชการ เว้นแต่จะได้รับ พระราชทานพระบรมราชานุญาต
(7) พระราชลัญจกร และลัญจกรในราชการ
(8) เครื่องหมายกาชาด ชื่อกาชาด กาเจนีวา เครื่องหมายราชการ หรือเครื่องหมายใด ๆ ที่ขัดต่อรัฐประศาสโนบายหรือศีลธรรมอันดีของประชาชน
(9) เครื่องหมายที่ราชการ องค์การ หน่วยงานของรัฐหรือองค์การระหว่างประเทศ ขอสงวนไว้
(10) สัญลักษณ์ประจำชาติไทย ได้แก่ ช้างไทย ดอกราชพฤกษ์ และ ศาลาไทย
เมื่อผู้เป็นหุ้นส่วนได้เจรจาตกลงสัดส่วนการลงทุนในห้างหุ้นส่วนและได้จัดทำสัญญาเข้าหุ้นส่วนเรียบร้อยแล้ว ห้างหุ้นส่วน โดย หุ้นส่วนผู้จัดการ อาจเรียกให้ผู้เป็นหุ้นส่วนทุกคน ชำระเงินลงหุ้นส่วนของตน ตามจำนวนและตามกำหนดระยะเวลาที่ตกลงกันในสัญญา
ในกรณีที่มีการตกลงเอาทรัพย์สินมาลงหุ้นแทนเงิน นอกจากการตีราคาแล้ว ผู้เป็นหุ้นส่วนจะต้องชำระโดยการส่งมอบทรัพย์สินดังกล่าวให้แก่ห้างหุ้นส่วน
นอกจากนี้ ในกรณีที่ทรัพย์สินที่นำมาลงหุ้นเป็นทรัพย์ที่มีทะเบียน (เช่น อาคาร ที่ดิน) ผู้เป็นหุ้นส่วนอาจต้องมีการจดทะเบียนเปลี่ยนแปลงทางทะเบียนด้วย (เช่น การจดทะเบียนโอนกรรมสิทธิ์ หรือการจดทะเบียนสิทธิการเช่า) ทั้งนี้ ขึ้นอยู่กับรูปแบบการนำทรัพย์สินมาลงหุ้นนั้น ว่าเป็นการให้ขาด หรือเพียงการให้ใช้ภายในระยะเวลาหนึ่งเท่านั้น
เมื่อห้างหุ้นส่วนได้รับชำระเงินลงหุ้นครบถ้วนถูกต้องตามจำนวนจากหุ้นส่วนแล้ว หุ้นส่วนผู้จัดการอาจออก ใบสำคัญรับเงิน ให้แก่หุ้นส่วนเพื่อเป็นหลักฐานแห่งการรับชำระเงินลงหุ้นนั้นและเพื่อใช้เป็นเอกสารประกอบการจดทะเบียนจัดตั้งห้างหุ้นส่วนด้วย
เมื่อได้ดำเนินกระบวนการต่างๆ ข้างต้นครบถ้วนแล้ว หุ้นส่วนผู้จัดการอาจดำเนินการยื่นคำขอจดทะเบียนห้างหุ้นส่วนจำกัดกับสำนักงานทะเบียนหุ้นส่วนบริษัท กรมพัฒนาธุรกิจการค้า ดังต่อไปนี้
(ก) การเจรจาตกลงเงื่อนไขสำคัญในการเข้าหุ้นส่วนและจัดทำสัญญาเข้าหุ้นส่วนหรือสัญญาจัดตั้งห้างหุ้นส่วน (Partnership Agreement) เพื่อความชัดเจนระหว่างหุ้นส่วน การจัดทำดวงตราของห้างหุ้นส่วน และการชำระเงินลงหุ้น
(ข) การจองชื่อนิติบุคคล
(ค) หุ้นส่วนผู้จัดการจัดเตรียมคำขอและเอกสารประกอบการจดทะเบียน
(ง) ยื่นคำขอจดทะเบียนจัดตั้งห้างหุ้นส่วนจำกัด
โดยที่ ชื่อที่ได้รับจองไว้ตามข้อ (ข) นั้นจะต้องมีการยื่นจดทะเบียนใช้ชื่อที่จอง ตามข้อ (ง) ภายใน 30 วันนับจากวันที่ได้รับจอง
ทั้งนี้ เมื่อได้ดำเนินการจดทะเบียนจัดตั้งห้างหุ้นส่วนจำกัดและนายทะเบียนได้รับจดทะเบียนไว้เรียบร้อยแล้ว ห้างหุ้นส่วนจำกัดจะมีสถานะเป็นนิติบุคคลแยกออกต่างหากจากหุ้นส่วนทั้งหลาย ดังนั้น หุ้นส่วนผู้จัดการควรดำเนินการจดทะเบียนจัดตั้งห้างหุ้นส่วนจำกัดให้เรียบร้อยในทันที โดยในระหว่างที่ยังไม่ได้มีการจดทะเบียนให้เรียบร้อย ตามกฎหมายจะถือว่าเป็นห้างหุ้นส่วนสามัญซึ่งผู้เป็นหุ้นส่วนทั้งหลายต้องรับผิดร่วมกันในบรรดาหนี้ของห้างหุ้นส่วนที่ได้ก่อขึ้นโดยไม่มีการจำกัดจำนวน
อนึ่ง ผู้ประกอบธุรกิจที่มีความประสงค์จะจัดตั้งห้างหุ้นส่วนจำกัด สามารถศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับการดำเนินการจดทะเบียนห้างหุ้นส่วนจำกัด (เช่น ค่าธรรมเนียม เอกสารประกอบคำขอ สถานที่รับจดทะเบียน กรอบระยะเวลา) ได้ที่กรมพัฒนาธุรกิจการค้า
ในกรณีที่ หุ้นส่วนผู้จัดการไม่สะดวกไปดำเนินการจดทะเบียนที่สำนักทะเบียนด้วยตนเอง หุ้นส่วนผู้จัดการอาจจัดทำ หนังสือมอบอำนาจ เพื่อมอบหมายให้บุคคลอื่นไปดำเนินการจดทะเบียนแทนได้ (เช่น ทนายความ) ในกรณีเช่นนี้จะต้องมีการรับรองลายมือชื่อตามแบบและหลักเกณฑ์ที่สำนักทะเบียนกำหนด (เช่น ทนายความ)
เมื่อห้างหุ้นส่วนได้จัดตั้งขึ้นตามกฎหมายแล้วจะถือว่าเป็นอีกบุคคลหนึ่งแยกออกต่างหาก จึงอาจต้องมีการดำเนินการอื่นๆ ที่เกี่ยวกับการดำเนินธุรกิจหรือกิจการนั้นๆ โดยเฉพาะ เช่น
จากที่กล่าวข้างต้น การดำเนินการจัดตั้งห้างหุ้นส่วนจำกัดไม่ใช่กระบวนการที่ยุ่งยากซับซ้อนแต่เป็นกระบวนการที่ต้องใช้ความละเอียดความรอบคอบ และความเข้าใจของผู้ที่เกี่ยวข้อง อย่างไรก็ดี ผู้ประกอบธุรกิจอาจปรึกษาทนายความ ในกรณีที่ผู้ประกอบธุรกิจไม่แน่ใจในกระบวนการจัดตั้งห้างหุ้นส่วนจำกัด