ตอบคำถามบางข้อแล้วเอกสารของคุณก็จะถูกสร้างขึ้นเองโดยอัตโนมัติ
เอกสารของคุณพร้อมแล้ว คุณจะได้รับเอกสารดังกล่าวในรูปแบบ Word และ PDF ซึ่งคุณสามารถทำการแก้ไขได้
คุณสามารถเลือกที่จะขอรับความช่วยเหลือจากทนายความได้หลังจากกรอกเอกสารเสร็จแล้ว
ปรับปรุงล่าสุด เมื่อ 8 วันที่แล้ว
รูปแบบที่มีให้ Word และ PDF
ขนาด 20 ถึง 30 หน้า
ตัวเลือก ความช่วยเหลือจากทนายความ
กรอกแบบฟอร์มสัญญาจะซื้อจะขายอสังหาริมทรัพย์ (เช่น บ้าน/อาคารพาณิชย์ ที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง) คือ สัญญาที่ผู้จะขายตกลงจะโอนกรรมสิทธิ์ความเป็นเจ้าของในอสังหาริมทรัพย์ให้แก่ผู้จะซื้อ และผู้จะซื้อตกลงจะชำระราคาค่าอสังหาริมทรัพย์ให้แก่ผู้จะขายตามระยะเวลาและเงื่อนไขที่กำหนด
สัญญาจะซื้อจะขายอาจแบ่งตามประเภทของอสังหาริมทรัพย์ได้ ดังต่อไปนี้
แม้ สัญญาทั้ง 2 ฉบับจะมีวัตถุประสงค์ในการเปลี่ยนแปลงกรรมสิทธิ์ในอสังหาริมทรัพย์เหมือนกัน แต่มีความแตกต่างกัน ดังต่อไปนี้
ในกรณีที่คู่สัญญาต้องการจะเช่าซื้ออสังหาริมทรัพย์ ผู้ใช้งานอาจเลือกใช้สัญญาเช่าซื้ออสังหาริมทรัพย์
จำเป็น เนื่องจากกฎหมายกำหนดให้สัญญาจะซื้อจะขายอสังหาริมทรัพย์ต้องมีหลักฐานเป็นหนังสือและลงลายมือชื่อคู่สัญญา หรือได้วางมัดจำ/ชำระหนี้ไว้บางส่วนแล้ว จึงจะสามารถฟ้องร้องบังคับคดีกันได้ในกรณีผิดสัญญา (เช่น ไม่ยอมชำระเงินส่วนที่เหลือ ไม่ยอมไปจดทะเบียนโอนกรรมสิทธิ์)
การรังวัดที่ดิน คือ การที่เจ้าหน้าที่ของกรมที่ดินหรือตัวแทนที่มีอำนาจ ดำเนินการตรวจสอบหลักหมุด และกำหนดแนวเขตของที่ดินเพื่อตรวจสอบความถูกต้องของขนาดและแนวเขตของที่ดิน ณ ปัจจุบันว่าตรงกับขนาดและแนวเขตที่ระบุไว้ในโฉนดที่ดิน หรือไม่ เนื่องจากอาจมีการขยับ/เปลี่ยนแปลงหลักหมุด/แนวเขตของที่ดินโดยธรรมชาติอันทำให้มีขนาดพื้นที่และ/หรือแนวเขตที่เพิ่มขึ้นหรือลดลง และอาจทำให้คู่สัญญาได้รับความเสียหายได้
คู่สัญญาอาจตกลงให้มีการรังวัดที่ดินใหม่ก่อนการซื้อขายอสังหาริมทรัพย์
คู่สัญญาไม่จำเป็นจะต้องดำเนินการใดๆ ก่อนตามกฎหมายในการจัดทำสัญญาจะซื้อจะขายอสังหาริมทรัพย์
อย่างไรก็ดี ก่อนการจัดทำสัญญา ผู้จะซื้อควรตรวจสอบ/มีข้อพิจารณา ดังต่อไปนี้
คู่สัญญาสามารถตรวจสอบกรรมสิทธิ์/ภาระผูกพันได้จากเอกสารแสดงการถือครองกรรมสิทธิ์/เอกสารทางทะเบียน (เช่น โฉนดที่ดิน เอกสารแสดงกรรมสิทธิ์ในห้องชุด)
บุคคลที่เกี่ยวข้องกับการจัดทำสัญญา ได้แก่
ในกรณีคู่สัญญาแต่งตั้ง/ว่าจ้างนายหน้าในการจัดหา/ขายอสังหาริมทรัพย์ คู่สัญญาฝ่ายนั้นอาจจัดทำสัญญานายหน้าอสังหาริมทรัพย์กับนายหน้าของตน
คู่สัญญาควรจัดทำสัญญาจะซื้อจะขายอสังหาริมทรัพย์เป็นลายลักษณ์อักษร และให้คู่สัญญาหรือตัวแทน รวมถึง พยาน (ถ้ามี) ลงนามให้เรียบร้อย
เมื่อจัดทำและลงนามในสัญญาเรียบร้อยแล้ว คู่สัญญาอาจพิจารณาดำเนินการ ดังต่อไปนี้
คู่สัญญาควรจัดทำบันทึกการตรวจรับสิ่งปลูกสร้างที่ซื้อขายในวันที่ตรวจรับ-รับมอบเพื่อเป็นหลักฐาน
คู่สัญญาอาจพิจารณาแนบเอกสารที่เกี่ยวข้องกับสัญญาจะซื้อจะขายอสังหาริมทรัพย์ เพื่อความชัดเจนและความเข้าใจที่ตรงกัน เช่น
จำเป็น กฎหมายกำหนดให้การซื้อขายอสังหาริมทรัพย์จะต้องทำเป็นหนังสือและจดทะเบียนโอนกรรมสิทธิ์และนิติกรรมการซื้อขายกับพนักงานเจ้าหน้าที่ (เช่น สำนักงานที่ดิน) จึงจะมีผลสมบูรณ์
ไม่จำเป็น กฎหมายไม่ได้กำหนดให้สัญญาจะซื้อจะขายอสังหาริมทรัพย์จำเป็นจะต้องมีพยานลงนามด้วย
อย่างไรก็ดี คู่สัญญาอาจพิจารณาจัดให้มีพยานลงนามในสัญญาตามที่เห็นสมควรด้วยก็ได้ ในกรณีเช่นนี้ พยานควรเป็นบุคคลผู้มีความสามารถในการทำนิติกรรมอย่างสมบูรณ์ (เช่น ผู้บรรลุนิติภาวะ อายุครบ 20 ปีบริบูรณ์ ไม่เป็นบุคคลวิกลจริตหรือบุคคลซึ่งศาลสั่งให้เป็นผู้เสมือนไร้ความสามารถ ไม่เป็นผู้ทุพพลภาพ) และไม่ใช่บุคคลที่มีหน้าที่/ภาระผูกพันตามสัญญา (เช่น คู่สัญญา)
คู่สัญญาอาจมีค่าใช้จ่ายที่ต้องพิจารณาจัดเตรียมในการจดทะเบียนโอนกรรมสิทธิ์และนิติกรรมการซื้อขายอสังหาริมทรัพย์ เช่น
คู่สัญญาควรระบุรายละเอียดและข้อความสำคัญในสัญญา ดังต่อไปนี้
กฎหมายที่เกี่ยวข้องกับการจัดทำสัญญาจะซื้อจะขายอสังหาริมทรัพย์มี ดังต่อไปนี้
คุณสามารถเลือกที่จะปรึกษาทนายความได้ในกรณีที่คุณต้องการความช่วยเหลือ
ทนายความสามารถช่วยคุณได้โดยทำการตอบคำถามของคุณหรือให้ความช่วยเหลือในกระบวนการต่าง ๆ จะมีการเสนอตัวเลือกดังกล่าวไว้ให้คุณในตอนท้ายของเอกสาร
คุณกรอกแบบสอบถามสำหรับป้อนข้อมูลแล้วจะเห็นได้ว่าระบบของเราจะค่อย ๆ สร้างเอกสารขึ้นเองโดยอัตโนมัติตามคำตอบที่คุณกรอกเข้าไป
ในตอนสุดท้าย คุณจะได้รับเอกสารในรูปแบบ Word และ PDF คุณสามารถแก้ไขและนำเอกสารไปใช้อีกได้
สัญญาจะซื้อจะขายอสังหาริมทรัพย์ - ตัวอย่างแบบฟอร์ม
ประเทศ: ประเทศไทย