ตั๋วสัญญาใช้เงินคืออะไร
ตั๋วสัญญาใช้เงิน (Promissory Note: P/N) คือ ตราสารที่จัดทำขึ้นโดยผู้ออกตั๋วเพียงฝ่ายเดียว เพื่อแสดงเจตนาในการให้คำมั่นสัญญาว่าจะชำระเงิน/จ่ายเงินจำนวนที่แน่นอนให้แก่ผู้รับเงินตามระยะเวลาที่กำหนดไว้ในตั๋วสัญญาใช้เงินนั้น โดยตั๋วสัญญาใช้เงินเป็นตราสารเปลี่ยนมือชนิดหนึ่งซึ่งผู้รับเงินสามารถโอนสิทธิที่กำหนดไว้ในตั๋วสัญญาใช้เงินดังกล่าว (เช่น สิทธิที่จะได้รับชำระเงินและดอกเบี้ย) ให้แก่บุคคลอื่นได้โดยเพียงการสลักหลังโอนและส่งมอบตั๋วสัญญาใช้เงินนั้นให้แก่ผู้รับโอน
ตั๋วสัญญาใช้เงินอาจถูกจัดทำขึ้นเพื่อใช้ในกรณีที่ผู้ออกตั๋วมีหนี้ที่ต้องชำระเงิน/จ่ายเงินให้แก่ผู้รับเงินในอนาคตจึงได้จัดทำตั๋วสัญญาใช้เงินให้ไว้แก่ผู้รับเงินซึ่งเป็นเจ้าหนี้ของผู้ออกตั๋ว เช่น
- การกู้ยืมเงินที่มีกำหนดชำระคืนเงินต้นครั้งเดียวเต็มจำนวนพร้อมดอกเบี้ย
- การติดค้างชำระค่าสินค้า/บริการ
ในกรณีที่ผู้ออกตั๋วและผู้รับเงินต้องการจัดทำตราสาร/เอกสารเพื่อเป็นหลักฐานแห่งกู้ยืมเงินที่มีเงื่อนไขรายละเอียดที่ซับซ้อน (เช่น การแบ่งชำระคืนเงินต้นและ/หรือดอกเบี้ยหลายคราวเป็นงวดๆ การกำหนดเหตุการณ์หรือเงื่อนไขแห่งการชำระเงินไว้ หรือการวางหลักประกันเป็นทรัพย์สิน/อสังหาริมทรัพย์) ผู้ใช้งานอาจเลือกใช้สัญญากู้ยืมเงิน (Loan Agreement) ซึ่งถูกร่างขึ้นสำหรับกรณีดังกล่าวโดยเฉพาะ
ตั๋วสัญญาใช้เงินมีกี่ประเภท
ตั๋วสัญญาใช้เงินอาจแบ่งตามลักษณะการกำหนดระยะเวลาชำระเงินได้ ดังต่อไปนี้
- ตั๋วสัญญาใช้เงินกำหนดวันที่จะใช้เงินที่แน่นอน (Fixed Maturity Date) เช่น ผู้ออกตั๋วตกลงจะชำระเงิน/จ่ายเงินภายในวันที่ 1 มกราคม 2568
- ตั๋วสัญญาใช้เงินกำหนดระยะเวลาที่จะใช้เงินที่แน่นอน (Fixed Term) เช่น ผู้ออกตั๋วตกลงจะชำระเงิน/จ่ายเงินภายใน 180 วัน นับจากวันที่ออกตั๋ว
- ตั๋วสัญญาใช้เงินเมื่อทวงถาม (On Demand) เช่น ผู้ออกตั๋วตกลงจะชำระเงิน/จ่ายเงินภายในวันที่ผู้รับเงินได้จัดทำหนังสือบอกกล่าวทวงถามขอรับชำระเงินแจ้งไปยังผู้ออกตั๋ว
- ตั๋วสัญญาใช้เงินเมื่อได้เห็น (At Sight) เช่น ผู้ออกตั๋วตกลงจะชำระเงิน/จ่ายเงินภายในวันที่ผู้รับเงินนำตั๋วไปยื่นแสดงต่อผู้ออกตั๋วเพื่อขอรับชำระเงิน
- ตั๋วสัญญาใช้เงินหลังจากได้เห็น (After Sight) เช่น ผู้ออกตั๋วตกลงจะชำระเงิน/จ่ายเงินภายในระยะเวลาหนึ่ง (เช่น 30 วัน) หลังจากผู้รับเงินนำตั๋วไปยื่นแสดงต่อผู้ออกตั๋วเพื่อขอรับชำระเงิน/จดรับรู้
ตั๋วสัญญาใช้เงินและเช็คแตกต่างกัน อย่างไร
แม้ตั๋วสัญญาใช้เงินและเช็คจะเป็นตั๋วเงินหรือตราสารเปลี่ยนมือเหมือนกัน (เช่น อาจสามารถสลักหลังโอนต่อให้แก่กันได้) และมีวัตถุประสงค์เพื่อให้ผู้รับเงินมีสิทธิได้รับชำระเงินตามตั๋วสัญญาใช้เงินหรือเช็คเช่นกัน แต่ตั๋วสัญญาใช้เงินและเช็คมีความแตกต่างกัน ดังต่อไปนี้
- ตั๋วสัญญาใช้เงิน ผู้ออกตราสาร (เช่น ผู้ออกตั๋ว) จะเป็นผู้มีหน้าที่ต้องชำระเงิน/จ่ายเงินให้แก่ผู้รับเงินตามระยะเวลาที่กำหนดไว้ในตั๋วสัญญาใช้เงินนั้น
- เช็ค ผู้ออกตราสาร (เช่น ผู้สั่งจ่าย) จะเป็นผู้สั่งให้ธนาคารเป็นผู้ชำระเงิน/จ่ายเงินให้แก่ผู้รับเงินเมื่อผู้รับเงินทวงถาม (เช่น นำเช็คไปขึ้นเงินกับธนาคาร)
จำเป็นต้องทำตั๋วสัญญาใช้เงิน หรือไม่
จำเป็น ในกรณีที่ผู้ออกตั๋วต้องการให้คำมั่นสัญญาว่าจะชำระเงิน/จ่ายเงินจำนวนที่แน่นอนให้แก่ผู้รับเงินตามระยะเวลาที่กำหนด ในลักษณะของตราสารเปลี่ยนมือ (เช่น ผู้รับเงินอาจสามารถสลักหลังโอนตั๋วสัญญาใช้เงินต่อให้แก่บุคคลอื่นเป็นผู้มีสิทธิรับเงินได้) ในกรณีเช่นนี้ ผู้ออกตั๋วจะต้องจัดทำตั๋วสัญญาใช้เงินเป็นลายลักษณ์อักษร์และลงนามผู้ออกตั๋ว และตั๋วสัญญาใช้เงินนั้นจะต้องมีรายการ/รายละเอียดตามที่กฎหมายกำหนด ตั๋วสัญญาใช้เงินจึงจะสามารถใช้บังคับได้
การสลักหลังโอนตั๋วสัญญาใช้เงินคืออะไร
ตั๋วเงินหรือตราสารเปลี่ยนมือ (เช่น ตั๋วแลกเงิน ตั๋วสัญญาใช้เงิน เช็ค) คือ ตราสารที่สามารถโอนสิทธิที่กำหนดไว้ในตราสารดังกล่าว (เช่น สิทธิที่จะได้รับชำระเงินและดอกเบี้ยที่กำหนดไว้ในตราสารนั้น) ให้แก่บุคคลอื่นได้เพียงการสลักหลังโอน (เช่น การลงลายมือชื่อแสดงเจตนาการโอนตั๋วสัญญาใช้เงินตามเงื่อนไขของกฎหมาย) และ/หรือเพียงการส่งมอบตราสารนั้น แล้วแต่กรณี
โดย การสลักหลังโอนตั๋วสัญญาใช้เงินอาจทำได้ 2 ลักษณะ ดังต่อไปนี้
- การลงลายมือชื่อและระบุชื่อผู้รับสิทธิประโยชน์ลงภายในตั๋วสัญญาใช้เงิน และส่งมอบตราสารนั้นให้แก่ผู้รับสิทธิประโยชน์
- การลงลายมือชื่อเพียงอย่างเดียวไว้ที่ด้านหลังตั๋วสัญญาใช้เงิน (สลักหลังลอย/Blank Endorsement) และส่งมอบตราสารนั้นให้แก่ผู้รับสิทธิประโยชน์
ต้องระบุข้อมูลสำคัญใดบ้างลงในตั๋วสัญญาใช้เงิน
ผู้ออกตั๋วควรระบุรายละเอียดและข้อความสำคัญในตั๋วสัญญาใช้เงิน ดังต่อไปนี้
- ผู้ออกตั๋ว เช่น ชื่อ ที่อยู่ เพื่อการอ้างอิงที่ถูกต้อง
- ผู้รับเงิน เช่น ชื่อ ที่อยู่ เพื่อการอ้างอิงที่ถูกต้อง
- การชำระเงิน/จ่ายเงิน เช่น จำนวนเงิน กำหนดชำระเงิน สถานที่ชำระเงิน อัตราดอกเบี้ย (ถ้ามี)
- ข้อมูลตั๋วสัญญาใช้เงิน เช่น วันที่และสถานที่ออก/จัดทำตั๋วสัญญาใช้เงิน
- ข้อกำหนดอื่นๆ (ถ้ามี) เช่น การค้ำประกันหรืออาวัล การห้ามโอน การยกเว้นหน้าที่ของผู้รับเงิน/ผู้ทรงในการทำคำคัดค้าน
ไม่ควรระบุ/กำหนดข้อมูลลักษณะใดลงในตั๋วสัญญาใช้เงิน
เนื่องจากสาระสำคัญของตั๋วสัญญาใช้เงินคือการที่ผู้ออกตั๋วให้คำมั่นสัญญาอันปราศจากเงื่อนไขว่าจะใช้เงินเป็นจำนวนแน่นอนทั้งจำนวนตามกำหนดระยะเวลาในตั๋วสัญญาใช้เงินโดยไม่มีเงื่อนไขใดๆ ผู้ออกตั๋วจึงไม่ควรระบุ/กำหนดข้อความในตั๋วสัญญาใช้เงินที่มีลักษณะ ดังต่อไปนี้
- ข้อความที่มีลักษณะเป็นการกำหนดเหตุการณ์หรือเงื่อนไขแห่งการชำระเงิน/จ่ายเงิน เช่น กำหนดให้ผู้รับเงินต้องดำเนินการส่งมอบสินค้า/บริการให้ครบถ้วนก่อนจึงจะมีสิทธิได้รับชำระเงินตามตั๋วสัญญาใช้เงิน
- ข้อความที่มีลักษณะเป็นการกำหนดจำนวนเงินที่ไม่แน่นอน เช่น กำหนดให้ผู้รับเงินมีสิทธิได้รับชำระเงินเป็นงวดๆ กำหนดให้ผู้รับเงินมีสิทธิได้รับชำระเงินเป็นจำนวนที่ไม่แน่นอนโดยอ้างอิงตามผลประกอบการ/ผลกำไรของผู้ออกตั๋ว
จำเป็นจะต้องดำเนินการอย่างไรก่อนทำตั๋วสัญญาใช้เงิน
ผู้ออกตั๋วไม่จำเป็นจะต้องดำเนินการใดๆ ก่อนตามกฎหมายในการจัดทำตั๋วสัญญาใช้เงิน
อย่างไรก็ดี ก่อนการจัดทำตั๋วสัญญาใช้เงิน ผู้ออกตั๋วควรตรวจสอบให้มั่นใจก่อนว่าจำนวนเงินที่จะต้องชำระ/จ่ายให้แก่ผู้รับเงินตามตั๋วสัญญาใช้เงินเป็นจำนวนที่ถูกต้องและสอดคล้องตามความต้องการและ/หรือหน้าที่ของผู้ออกตั๋ว
ตั๋วสัญญาใช้เงินเกี่ยวข้องกับใครบ้าง
บุคคลที่เกี่ยวข้องกับการจัดทำตั๋วสัญญาใช้เงิน ได้แก่
- ผู้ออกตั๋ว (เช่น ผู้ที่ตกลงจะชำระเงิน/จ่ายเงินจำนวนที่แน่นอนให้แก่ผู้รับเงินและมีหน้าที่ต้องชำระเงิน/จ่ายเงินตามที่กำหนดไว้ในตั๋วสัญญาใช้เงิน) ตัวแทนผู้มีอำนาจของผู้ออกตั๋ว (เช่น กรรมการ หุ้นส่วนผู้จัดการ) หรือตัวแทนที่ผู้ผู้ออกตั๋วมอบหมายให้รับผิดชอบเกี่ยวกับการชำระเงินในรูปแบบตั๋วสัญญาใช้เงิน (เช่น ผู้จัดการ/ผู้อำนวยการฝ่ายการเงิน) ซึ่งเป็นผู้จัดทำและลงนามในตั๋วสัญญาใช้เงิน
- ผู้รับเงินซึ่งเป็นผู้มีสิทธิได้รับเงินตามที่กำหนดไว้ในตั๋วสัญญาใช้เงินและเป็นผู้ได้รับตั๋วสัญญาใช้เงินไว้ยึดถือเพื่อเป็นตราสาร/หลักฐานในการขอรับชำระเงินจากผู้ออกตั๋ว
- ผู้รับอาวัล (ถ้ามี) ผู้ออกตั๋วอาจจัดให้มีผู้รับอาวัลลงนามภายในตั๋วสัญญาใช้เงินด้วยก็ได้ โดยที่ ผู้รับอาวัล คือ ผู้ที่ค้ำประกันตั๋วสัญญาใช้เงินฉบับนั้นๆ ซึ่งเป็นบุคคลที่จะรับผิดชอบชำระเงิน/จ่ายเงินตามตั๋วสัญญาใช้เงินนั้นแทนผู้ออกตั๋วในกรณีที่ผู้ออกตั๋วไม่สามารถชำระเงิน/จ่ายเงินตามตั๋วสัญญาใช้เงินได้
- ผู้ทรงตั๋วสัญญาใช้เงิน (ถ้ามี) ในกรณีที่ผู้รับเงินโอนสิทธิที่กำหนดไว้ในตั๋วสัญญาใช้เงินดังกล่าวให้แก่บุคคลอื่น โดยการสลักหลังโอนและส่งมอบตั๋วสัญญาใช้เงินนั้นให้แก่บุคคลนั้น โดยผู้ทรงตั๋วสัญญาใช้เงินจะเป็นผู้มีสิทธิได้รับเงินตามที่กำหนดไว้ในตั๋วสัญญาใช้เงินแทนผู้รับเงิน
จะต้องทำอย่างไรต่อหลังจากที่ลงนามในตั๋วสัญญาใช้เงินแล้ว
ผู้ออกตั๋วต้องจัดทำตั๋วสัญญาใช้เงินเป็นลายลักษณ์อักษร ลงลายมือชื่อผู้ออกตั๋วสัญญาใช้เงิน เนื่องจากกฎหมายกำหนดให้ตั๋วสัญญาใช้เงินจะต้องลงลายมือชื่อผู้ออกตั๋วจึงจะสามารถใช้บังคับได้
เมื่อจัดทำและลงนามในตั๋วสัญญาใช้เงินเรียบร้อยแล้ว ผู้ออกตั๋วอาจพิจารณาดำเนินการ ดังต่อไปนี้
- ผู้ออกตั๋วให้ผู้รับอาวัลลงลายมือชื่อ (ถ้ามี) ในกรณีที่ผู้ออกตั๋วจัดให้มีผู้รับอาวัล/ผู้ค้ำประกันตั๋วสัญญาใช้เงิน
- ผู้ออกตั๋วติด/ชำระอากรแสตมป์ตั๋วสัญญาใช้เงินตามอัตรา ระยะเวลา และเงื่อนไขที่กฎหมายกำหนด เนื่องจากตั๋วสัญญาใช้เงินเป็นตราสารที่กฎหมายกำหนดให้ต้องชำระอากรแสตมป์
- ผู้ออกตั๋วอาจจัดเก็บสำเนาตั๋วสัญญาใช้เงินนั้นไว้เพื่อการอ้างอิง
- ผู้ออกตั๋วส่งมอบตั๋วสัญญาใช้เงินให้แก่ผู้รับเงินเพื่อยึดถือไว้เป็นหลักฐานและใช้ในการขอรับชำระเงินตามที่กำหนดไว้ในตั๋วสัญญาใช้เงินดังกล่าว
ผู้รับเงินที่ประสงค์จะขอรับชำระเงินตามตั๋วสัญญาใช้เงิน ผู้รับเงินจะต้องดำเนินการตามหลักเกณฑ์ที่กฎหมายกำหนดในกรณีต่างๆ ขึ้นอยู่กับประเภทของตั๋วสัญญาใช้เงิน เช่น
- ตั๋วสัญญาใช้เงินกำหนดวันที่จะใช้เงินที่แน่นอน (Fixed Maturity Date) หรือตั๋วสัญญาใช้เงินกำหนดระยะเวลาที่จะใช้เงินที่แน่นอน (Fixed Term) ผู้รับเงินจะต้องนำตั๋วสัญญาใช้เงินดังกล่าวไปยื่นต่อผู้ออกตั๋วในวันที่ครบกำหนดชำระนั้นเพื่อให้ผู้ออกตั๋วดำเนินการชำระเงิน
- ตั๋วสัญญาใช้เงินเมื่อทวงถาม (On Demand) ผู้รับเงินจะต้องจัดทำหนังสือบอกกล่าวทวงถามยังไปผู้ออกตั๋วก่อนเพื่อขอรับชำระเงิน โดยผู้รับเงินจะขอรับชำระเงินเมื่อใดก็ได้ ทั้งนี้ ภายในระยะเวลาที่ผู้ออกตั๋วหรือกฎหมายกำหนด แล้วแต่กรณี
- ตั๋วสัญญาใช้เงินเมื่อได้เห็น (At Sight) หรือตั๋วสัญญาใช้เงินหลังจากได้เห็น (After Sight) ผู้รับเงินจะต้องนำตั๋วสัญญาใช้เงินไปยื่นให้ผู้ออกตั๋วเพื่อขอรับเงินหรือเพื่อจดรับรู้ โดยผู้รับเงินจะขอรับเงินหรือจดรับรู้เมื่อใดก็ได้ ทั้งนี้ ภายในระยะเวลาที่ผู้ออกตั๋วหรือกฎหมายกำหนด แล้วแต่กรณี
เมื่อผู้ขอรับเงินดำเนินการขอรับชำระเงินอย่างถูกต้องแล้ว ผู้ออกตั๋วอาจพิจารณาดำเนินการ ดังต่อไปนี้
- ผู้ออกตั๋วจะต้องเวนตั๋วสัญญาใช้เงินนั้นคืนจากผู้รับเงิน
- ผู้ออกตั๋วจะต้องชำระเงินให้แก่ผู้รับเงินตามจำนวนที่ระบุไว้ในตั๋วสัญญาใช้เงิน พร้อมดอกเบี้ย (ถ้ามี)
- ผู้ออกตั๋วอาจให้ผู้รับเงินลงลายมือชื่อรับรองไว้เป็นหลักฐานในตั๋วสัญญาใช้เงินว่าผู้รับเงินได้รับเงินตามตั๋วสัญญาใช้เงินไปแล้วด้วยก็ได้
ตั๋วสัญญาใช้เงินจำเป็นจะต้องจดทะเบียนกับหน่วยงานของรัฐที่เกี่ยวข้อง หรือไม่
ไม่จำเป็น ผู้ออกตั๋วไม่จำเป็นจะต้องดำเนินการจดทะเบียนกับหน่วยงานของรัฐที่เกี่ยวข้องใดๆ ในการจัดทำตั๋วสัญญาใช้เงิน
มีค่าใช้จ่ายใดบ้างที่เกี่ยวข้องในการจัดทำตั๋วสัญญาใช้เงิน
ผู้ออกตั๋วอาจมีค่าใช้จ่ายที่ต้องพิจารณาจัดเตรียมในการจัดทำตั๋วสัญญาใช้เงิน ดังต่อไปนี้
- อากรแสตมป์ เนื่องจากตั๋วสัญญาใช้เงินเป็นตราสารที่กฎหมายกำหนดให้ต้องชำระอากรแสตมป์ ผู้ออกตั๋วจึงมีหน้าที่นำตั๋วสัญญาใช้เงินที่ลงนามเรียบร้อยแล้วไปติด/ชำระอากรแสตมป์ตามอัตรา ระยะเวลา และเงื่อนไขที่กฎหมายกำหนด ในกรณีที่ไม่ชำระอากร ศาลจะไม่รับฟังตราสารที่ไม่ได้ชำระอากรโดยสมบูรณ์เป็นพยานหลักฐาน อีกทั้ง ยังมีค่าปรับการไม่ชำระอากรแสตมป์ และอาจมีโทษทางอาญาอีกด้วย
กฎหมายใดบ้างที่เกี่ยวข้องกับตั๋วสัญญาใช้เงิน
กฎหมายที่เกี่ยวข้องกับการจัดทำตั๋วสัญญาใช้เงินมี ดังต่อไปนี้
ความช่วยเหลือจากทนายความ
คุณสามารถเลือกที่จะปรึกษาทนายความได้ในกรณีที่คุณต้องการความช่วยเหลือ
ทนายความสามารถช่วยคุณได้โดยทำการตอบคำถามของคุณหรือให้ความช่วยเหลือในกระบวนการต่าง ๆ จะมีการเสนอตัวเลือกดังกล่าวไว้ให้คุณในตอนท้ายของเอกสาร
แก้ไขแบบฟอร์มได้อย่างไร
คุณกรอกแบบสอบถามสำหรับป้อนข้อมูลแล้วจะเห็นได้ว่าระบบของเราจะค่อย ๆ สร้างเอกสารขึ้นเองโดยอัตโนมัติตามคำตอบที่คุณกรอกเข้าไป
ในตอนสุดท้าย คุณจะได้รับเอกสารในรูปแบบ Word และ PDF คุณสามารถแก้ไขและนำเอกสารไปใช้อีกได้