สัญญาเข้าหุ้นส่วน

ความคืบหน้า
0%
?
X

เลือก ประเภทห้างหุ้นส่วนที่ต้องการจะจัดตั้งและใช้ในการประกอบกิจการ

โดยที่ ห้างหุ้นส่วนแต่ละประเภทมีลักษณะสำคัญ ดังต่อไปนี้

(ก) ห้างหุ้นส่วนสามัญ มีลักษณะ ดังต่อไปนี้

  • ไม่ต้องจดทะเบียนจัดตั้ง
  • ไม่มีสถานะเป็นนิติบุคคลแยกออกจากหุ้นส่วน
  • เป็นหน่วยภาษีแยกจากหุ้นส่วนและเสียภาษีในรูปแบบของภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา (เช่น อัตราภาษีก้าวหน้า)
  • หุ้นส่วนทุกคนต้องร่วมรับผิดชอบความรับผิดที่ห้างหุ้นส่วนก่อขึ้น (เช่น หนี้สิน)

(ข) ห้างหุ้นส่วนสามัญจดทะเบียน มีลักษณะ ดังต่อไปนี้

  • จะต้องจดทะเบียนจัดตั้ง
  • เป็นนิติบุคคล
  • เป็นหน่วยภาษีแยกจากหุ้นส่วนและเสียภาษีในรูปแบบของภาษีเงินได้นิติบุคคล (เช่น อัตราภาษีที่คงที่)
  • หุ้นส่วนทุกคนต้องร่วมรับผิดชอบความรับผิดที่ห้างหุ้นส่วนก่อขึ้น (เช่น หนี้สิน) โดยไม่มีการจำกัดความรับผิด/แยกความรับผิด

(ค) ห้างหุ้นส่วนจำกัด มีลักษณะ ดังต่อไปนี้

  • จะต้องจดทะเบียนจัดตั้ง
  • เป็นนิติบุคคล
  • เป็นหน่วยภาษีแยกจากหุ้นส่วนและเสียภาษีในรูปแบบของภาษีเงินได้นิติบุคคล (เช่น อัตราภาษีที่คงที่)
  • มีหุ้นส่วน 2 ประเภท คือ หุ้นส่วนที่จำกัดความรับผิด และหุ้นส่วนไม่จำกัดความรับผิด



คุณต้องการความช่วยเหลือส่วนบุคคลใช่หรือไม่
ในตอนท้าย คุณสามารถเลือกตัวเลือกปรึกษาทนายความได้

ช่วยเหลือ
แก้ไขแบบฟอร์ม
ดูเอกสารของคุณ

หนังสือสัญญาจัดตั้งห้างหุ้นส่วนสามัญ

สัญญาจัดตั้งห้างหุ้นส่วนสามัญฉบับนี้ ซึ่งต่อไปนี้จะเรียกว่า "สัญญา" ทำขึ้นที่ ________ เมื่อวันที่ ________ ระหว่าง

________ ถือบัตรประจำตัวประชาชนเลขที่ ________ อยู่ที่ ________ ซึ่งต่อไปในสัญญาฉบับนี้จะเรียกว่า "หุ้นส่วนคนที่ 1" และ

________ ถือบัตรประจำตัวประชาชนเลขที่ ________ อยู่ที่ ________ ซึ่งต่อไปในสัญญาฉบับนี้จะเรียกว่า "หุ้นส่วนคนที่ 2"

โดยที่

(ก) หุ้นส่วนทั้ง 2 (สอง) คน มีความประสงค์จะดำเนินกิจการร่วมกัน และ
(ข) หุ้นส่วนทั้งหลายมีความประสงค์จะแบ่งปันผลกำไรจากการดำเนินกิจการที่ดำเนินร่วมกันนั้น

หุ้นส่วนทั้ง 2 (สอง) คนจึงตกลงเข้าทำสัญญาฉบับนี้ โดยมีข้อความดังต่อไปนี้

ข้อ 1 ประเภทห้างหุ้นส่วน

หุ้นส่วนทั้ง 2 (สอง) คน มีความประสงค์จะดำเนินกิจการร่วมกันเพื่อประสงค์จะแบ่งปันผลกำไรจากการดำเนินกิจการที่ดำเนินร่วมกันในรูปแบบของ ห้างหุ้นส่วนสามัญ ตามกฎหมายหุ้นส่วนและบริษัทประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ ซึ่งต่อไปในสัญญาฉบับนี้จะเรียกว่า "ห้างหุ้นส่วน"

ข้อ 2 ชื่อห้างหุ้นส่วน

หุ้นส่วนทั้งหลายตกลงใช้ชื่อในการดำเนินกิจการร่วมกันของห้างหุ้นส่วน โดยใช้ชื่อว่า

"________"

ข้อ 3 การจัดตั้งห้างหุ้นส่วน

ผู้เป็นหุ้นส่วนทั้งหลายตกลงให้จัดตั้งห้างหุ้นส่วนขึ้นในวันที่ ________

ข้อ 4 วัตถุประสงค์ของห้างหุ้นส่วน

หุ้นส่วนทั้งหลายตกลงให้ห้างหุ้นส่วนมีวัตถุประสงค์ในการประกอบกิจการ ดังต่อไปนี้

________

ข้อ 5 สำนักงานของห้างหุ้นส่วน

หุ้นส่วนทั้งหลายตกลงให้สำนักงานแห่งใหญ่ของห้างหุ้นส่วนตั้งอยู่ที่ ________

ข้อ 6 การลงหุ้นของผู้เป็นหุ้นส่วน

ผู้เป็นหุ้นส่วนทั้งหลายตกลงจะเข้าหุ้นในห้างหุ้นส่วนด้วยสินทรัพย์ในสัดส่วน ดังต่อไปนี้

(ก) ________ ตกลงจะลงหุ้นเป็น เงินมูลค่าหุ้นส่วนที่ลงทั้งสิ้น ________ บาท (________) และ

(ข) ________ ตกลงจะลงหุ้นเป็น เงินมูลค่าหุ้นส่วนที่ลงทั้งสิ้น ________ บาท (________)

รวมเป็นมูลค่าทุนที่ลงของห้างหุ้นส่วนทั้งสิ้น ________ บาท (________)

อนึ่ง เว้นแต่จะได้กำหนดไว้โดยเฉพาะเจาะจงไว้เป็นอย่างอื่น ผู้เป็นหุ้นส่วนทุกคนตกลงจะชำระสินทรัพย์ที่ลงหุ้นในส่วนของตนให้แก่ห้างหุ้นส่วนภายใน 7 (เจ็ด) วัน นับจากวันที่ทำสัญญาฉบับนี้

ในกรณีที่ผู้เป็นหุ้นส่วนละเลยไม่ส่งมอบส่วนลงหุ้นของตนตามจำนวนและภายในระยะเวลาที่กำหนดไว้ในวรรคก่อนหน้า และห้างหุ้นส่วนได้ส่งคำบอกกล่าวเป็นจดหมายไปรษณีย์ลงทะเบียนตอบรับไปยังผู้เป็นหุ้นส่วนคนนั้นเพื่อทวงถามให้ชำระและ/หรือส่งมอบส่วนลงหุ้นของตนภายในเวลาอันสมควรแล้ว หากปรากฏว่าผู้เป็นหุ้นส่วนคนดังกล่าวยังคงละเลยไม่ชำระและ/หรือส่งมอบส่วนลงหุ้นของตน ผู้เป็นหุ้นส่วนคนอื่นๆ ซึ่งได้ชำระเงิน/ส่งมอบทรัพย์สินส่วนของตนครบถ้วนแล้ว อาจลงเสียงให้เอาผู้เป็นหุ้นส่วนคนนั้นออกจากห้างหุ้นส่วนก็ได้ โดยใช้มติเสียงข้างมากของผู้เป็นหุ้นส่วนที่เหลือดังกล่าว

ข้อ 7 การจัดสรรเงินปันผล

ในกรณีที่ห้างหุ้นส่วนมีกำไรจากการประกอบกิจการของห้างหุ้นส่วน ผู้เป็นหุ้นส่วนทั้งหลายตกลงให้จัดสรรผลกำไรที่ได้จากการดำเนินกิจการของห้างหุ้นส่วนให้แก่ผู้เป็นหุ้นส่วนแต่ละรายโดยจัดสรร ตามสัดส่วนมูลค่าการลงหุ้นของผู้เป็นหุ้นส่วนแต่ละคน

หลักเกณฑ์และสัดส่วนการจัดสรรผลกำไรในวรรคก่อนนี้ ให้นำมาใช้ในสัดส่วนการรับผิดชอบในหนี้สินกรณีที่ห้างหุ้นส่วนขาดทุนด้วยเช่นกัน

ข้อ 8 การจ่ายเงินปันผล

ในกรณีที่ห้างหุ้นส่วนมีกำไรจากการประกอบกิจการของห้างหุ้นส่วน ผู้เป็นหุ้นส่วนทั้งหลายตกลงให้ห้างหุ้นส่วนจัดสรรและจ่ายเงินปันผลแก่ผู้เป็นหุ้นส่วน เป็นประจำทุกๆ เดือน

ในการจ่ายเงินปันผล ให้ห้างหุ้นส่วนจ่ายให้แก่ผู้เป็นหุ้นส่วนโดยรูปแบบ ช่องทาง และวิธีการที่หุ้นส่วนผู้จัดการเห็นสมควร โดยคำนึงถึงความสะดวก รวดเร็ว และความปลอดภัยเป็นสำคัญ อันรวมถึงแต่ไม่จำกัดเพียง การชำระโดยเงินสด การนําเข้าบัญชีเงินฝากธนาคาร เช็คสั่งจ่ายระบุชื่อผู้ถือและขีดคร่อม "นำเข้าบัญชีผู้รับเงินเท่านั้น" หรือ "A/C Payee Only"

ข้อ 9 หุ้นส่วนผู้จัดการ

ในการจัดการงานของห้างหุ้นส่วน ผู้เป็นหุ้นส่วนทั้งหลายตกลงกันให้ ผู้เป็นหุ้นส่วนทุกคนเป็นผู้มีอำนาจจัดการงานของห้างหุ้นส่วน โดยที่ ผู้เป็นหุ้นส่วนแต่ละคนนั้นล้วนสามารถจัดการงานของห้างหุ้นส่วนได้ในทุกๆ เรื่อง เว้นแต่ ผู้เป็นหุ้นส่วนคนหนึ่งคนใดทักท้วงการจัดการงานดังกล่าวของผู้เป็นหุ้นส่วนคนนั้น ซึ่งต่อไปนี้สัญญาฉบับนี้จะเรียกว่า "หุ้นส่วนผู้จัดการ"

ข้อ 10 การบริหารจัดการห้างหุ้นส่วน

ผู้เป็นหุ้นส่วนผู้จัดการจำต้องจัดการงานของห้างหุ้นส่วนด้วยความซื่อสัตย์ สุจริต โปร่งใส ความรอบคอบ และความระมัดระวังในการดำเนินกิจการต่างๆ ใช้ความเอื้อเฟื้อสอดส่องอย่างเช่นบุคคลค้าขายผู้ประกอบด้วยความระมัดระวัง

ข้อ 11 ค่าตอบแทนของหุ้นส่วนผู้จัดการ

ในการจัดการงานของห้างหุ้นส่วน ผู้เป็นหุ้นส่วนทั้งหลายตกลงกันให้ หุ้นส่วนผู้จัดการไม่มีสิทธิได้รับ ค่าตอบแทนของหุ้นส่วนผู้จัดการ อันรวมถึงแต่ไม่จำกัดเพียง เงินเดือนหรือบำเหน็จใดๆ

ข้อ 12 การเปลี่ยนแปลงหุ้นส่วนผู้จัดการ

(ก) การตั้งหุ้นส่วนผู้จัดการ

ให้การตั้งหุ้นส่วนผู้จัดการดำเนินการโดยใช้วิธีการ หลักเกณฑ์ และเงื่อนไขการตั้งหุ้นส่วนผู้จัดการตามที่ประชุมผู้เป็นหุ้นส่วนกำหนด

(ข) การสิ้นสุดการเป็นหุ้นส่วนผู้จัดการ

ให้ความเป็นหุ้นส่วนผู้จัดการสิ้นสุดลง ในกรณีดังต่อไปนี้

(1) เมื่อหุ้นส่วนผู้จัดการลาออก

(2) เมื่อมติของที่ประชุมผู้เป็นหุ้นส่วนมีมติให้ถอดถอนหุ้นส่วนผู้จัดการคนนั้น

(3) เมื่อเป็นไปตามวิธีการ หลักเกณฑ์ และเงื่อนไขการถอดถอนหุ้นส่วนผู้จัดการตามที่ประชุมผู้เป็นหุ้นส่วนกำหนด

(4) เมื่อหุ้นส่วนผู้จัดการตาย ล้มละลาย หรือตกเป็นผู้ไร้ความสามารถ

ข้อ 13 การประชุมผู้เป็นหุ้นส่วน

ให้ห้างหุ้นส่วนจัดให้มีการประชุมผู้เป็นหุ้นส่วนขึ้นในกรณี ดังต่อไปนี้

(ก) เมื่อมีเหตุอันสมควรและผู้เป็นหุ้นส่วนคนหนึ่งคนใดได้นัดเรียกให้มีการประชุมผู้เป็นหุ้นส่วน
(ข) เมื่อมีเหตุที่หุ้นส่วนผู้จัดการจำเป็นต้องได้รับความเห็นชอบและ/หรือความยินยอมของผู้เป็นหุ้นส่วนทุกคนก่อนการดำเนินการนั้นๆ

ข้อ 14 การออกเสียงหรือลงมติของห้างหุ้นส่วน

เว้นแต่จะได้กำหนดไว้โดยเฉพาะเจาะจงไว้เป็นอย่างอื่น ในการออกเสียงหรือลงมติในเรื่องใดๆ ในการประชุมผู้เป็นหุ้นส่วนให้ถือมติเสียงข้างมากของที่ประชุมเป็นมติของห้างหุ้นส่วน

โดยที่ ผู้เป็นหุ้นส่วนคนหนึ่งมีเสียงเท่ากับสัดส่วนมูลค่าการลงหุ้นส่วนของตน

ข้อ 15 หุ้นส่วนเข้าและหุ้นส่วนออก

(ก) หุ้นส่วนเข้า

บุคคลผู้อื่นอาจเข้ามาเป็นหุ้นส่วนในห้างหุ้นส่วนตามสัญญาฉบับนี้ได้โดยมติเสียงส่วนใหญ่ของที่ประชุมผู้เป็นหุ้นส่วนไม่น้อยกว่าร้อยละ 75 (เจ็ดสิบห้า) ของเสียงทั้งหมด โดยให้ผู้เป็นหุ้นส่วนหนึ่งคนมีเสียงเท่ากับมูลค่าการลงหุ้นส่วนของตน

ในกรณีเช่นนี้ ผู้เข้าเป็นหุ้นส่วนในห้างหุ้นส่วนนั้นย่อมต้องรับผิดในหนี้ใดๆ ซึ่งห้างหุ้นส่วนได้ก่อให้เกิดขึ้นก่อนที่ตนจะเข้ามาเป็นหุ้นส่วนด้วย

(ข) หุ้นส่วนออก

ผู้เป็นหุ้นส่วนอาจออกจากการเป็นหุ้นส่วนในห้างหุ้นส่วนตามสัญญาฉบับนี้ ได้โดยมติเสียงส่วนใหญ่ของที่ประชุมผู้เป็นหุ้นส่วนไม่น้อยกว่าร้อยละ 75 (เจ็ดสิบห้า) ของเสียงทั้งหมด โดยให้ผู้เป็นหุ้นส่วนหนึ่งคนมีเสียงเท่ากับมูลค่าการลงหุ้นส่วนของตน

ในกรณีเช่นนี้ ผู้เป็นหุ้นส่วนซึ่งได้ออกจากการเป็นหุ้นส่วนไปแล้วยังคงต้องรับผิดในหนี้ซึ่งห้างหุ้นส่วนได้ก่อให้เกิดขึ้นก่อนที่ตนได้ออกจากหุ้นส่วนนั้นไป

ข้อ 16 การเพิ่มทุน ลดทุน และเปลี่ยนประเภทสินทรัพย์ที่ลงหุ้น

ในการเพิ่มทุน ลดทุน และ/หรือเปลี่ยนประเภทสินทรัพย์ที่ลงหุ้นในห้างหุ้นส่วนใดๆ ผู้เป็นหุ้นส่วนทั้งหลายตกลงกันให้จะกระทำได้ก็ต่อเมื่อที่ประชุมผู้เป็นหุ้นส่วนมีมติเห็นชอบไม่น้อยกว่าร้อยละ 75 (เจ็ดสิบห้า) ของเสียงทั้งหมด ให้ดำเนินการเช่นว่านั้น โดยให้ผู้เป็นหุ้นส่วนหนึ่งคนมีเสียงเท่ากับมูลค่าการลงหุ้นส่วนของตน

ข้อ 17 การค้าแข่ง

เว้นแต่ ผู้เป็นหุ้นส่วนได้รับความยินยอมของผู้เป็นหุ้นส่วนทั้งหลายเป็นอย่างอื่น ผู้เป็นหุ้นส่วนตกลงจะ

(ก) ไม่ประกอบกิจการหรือให้บริการในลักษณะเดียวกันหรือคล้ายคลึงกับกิจการของห้างหุ้นส่วนอันเป็นการแข่งขันโดยตรงกับกิจการของห้างหุ้นส่วนตามสัญญาฉบับนี้
(ข) ไม่เป็นผู้เกี่ยวข้องกับกิจการที่มีลักษณะดังกล่าวใน ข้อ (ก) อันรวมถึงแต่ไม่จำกัดเพียง ผู้ถือหุ้น หุ้นส่วน กรรมการ หุ้นส่วนผู้จัดการ ลูกจ้าง พนักงาน ที่ปรึกษา หรือตัวแทนใดๆ

ในกรณีที่ผู้เป็นหุ้นส่วนคนหนึ่งคนใดได้ปฏิบัติฝ่าฝืนความในวรรคก่อน ผู้เป็นหุ้นส่วนทั้งหลายย่อมมีสิทธิที่จะเรียกเอาผลกำไรจากผู้เป็นหุ้นส่วนผู้นั้นได้ทั้งสิ้นหรือเรียกเอาค่าสินไหมทดแทนจากการที่ห้างหุ้นส่วนได้รับความเสียหายจากการประกอบกิจการหรือให้บริการเช่นว่านั้น

ข้อ 18 รอบปีบัญชีของห้างหุ้นส่วน

ให้ห้างหุ้นส่วนมีรอบปีบัญชีของห้างหุ้นส่วน โดยเริ่มต้นตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม ถึงวันที่ 31 ธันวาคม ของทุกปี

ข้อ 19 5885222582

58852225822822228588588522 588522258228222285885885222882255228288258288585282582525885582888888888 5885222582282222858858

(________) 58852225822822228588588522288225522828825828858528 58852225822822228
(________) 5885222582282222858858852228822552282 588522258228222285885885222882255 588522258228222

ข้อ 20 588522258228222285885

588522258228222285885885222882255228288258288585282582 588522258228 5885222582282222858858852228822552282882582885852825825258855828888888888888888888

58852 5885222582282222858858852228822 5 5885222582282222858858852228822 58852225822822228588588522288225522828825828858528258252588558288888888888888888888888

ข้อ 21 ความรับผิดของห้างหุ้นส่วน

ภายใต้ข้อสัญญาว่าด้วยความรับผิดของผู้เป็นหุ้นส่วน การใดๆ ที่ผู้เป็นหุ้นส่วนคนหนึ่งคนใดได้จัดการงานไปในทางที่เป็นธรรมดาการค้าขายของห้างหุ้นส่วนนั้น ผู้เป็นหุ้นส่วนหมดทุกคนย่อมมีความผูกพันในการจัดการนั้นๆ ด้วย และผู้เป็นหุ้นส่วนทั้งหลายจะรับผิดร่วมกันโดยไม่จำกัดจำนวนในการชำระหนี้อันได้ก่อให้เกิดขึ้นจากการจัดการเช่นว่านั้น

ข้อ 22 ความรับผิดของผู้เป็นหุ้นส่วน

ในกรณีที่

(ก) ผู้เป็นหุ้นส่วนซึ่งไม่ใช่หุ้นส่วนผู้จัดการสอดเข้ามาจัดการงานของห้างหุ้นส่วน
(ข) หุ้นส่วนผู้จัดการจัดการงานของห้างหุ้นส่วนโดยล่วงขอบอำนาจของตนหรือโดยไม่มีอำนาจ

หากการจัดการงานนั้นขัดต่อประโยชน์ของห้างหุ้นส่วน ขัดต่อความประสงค์อันแท้จริงของห้างหุ้นส่วนหรือตามที่จะพึงสันนิษฐานได้ว่าเป็นความประสงค์ของห้างหุ้นส่วน หรือมิได้เป็นไปเพื่อปัดป้องอันตรายจากห้างหุ้นส่วน ผู้เป็นหุ้นส่วนที่จัดการงานนั้นตกลงจะชดใช้ค่าสินไหมทดแทนให้แก่ห้างหุ้นส่วนเพื่อความเสียหายอย่างใดๆ อันเกิดจากการที่จัดการงานนั้นทั้งสิ้น

ทั้งนี้ ตามกฎหมายว่าด้วยจัดการงานนอกสั่ง

ข้อ 23 การเลิกห้างหุ้นส่วน

ห้างหุ้นส่วนตามสัญญาฉบับนี้ อาจเลิกกันในกรณี ดังต่อไปนี้

(ก) เมื่อห้างหุ้นส่วนได้ดำเนินการโดยบรรลุวัตถุประสงค์แห่งการจัดตั้งห้างหุ้นส่วนเช่นว่านั้นแล้วทั้งสิ้นตามสัญญาฉบับนี้ ในกรณีที่วัตถุประสงค์ของห้างหุ้นส่วนกำหนดให้ดำเนินการอย่างใดอย่างหนึ่งไว้โดยเฉพาะเจาะจง

(ข) เมื่อผู้เป็นหุ้นส่วนคนหนึ่งคนใดบอกเลิกห้างหุ้นส่วนเมื่อสิ้นรอบปีบัญชีของห้างหุ้นส่วนนั้น และผู้เป็นหุ้นส่วนนั้นได้บอกกล่าวความจำนงที่จะเลิกแก่ผู้เป็นหุ้นส่วนคนอื่นๆ ล่วงหน้าไม่น้อยกว่า 6 (หก) เดือน เว้นแต่ ผู้เป็นหุ้นส่วนที่ยังอยู่รับซื้อหุ้นของผู้ที่ออกจากหุ้นส่วนนั้นไว้

(ค) เมื่อผู้เป็นหุ้นส่วนคนใดคนหนึ่งตาย ล้มละลาย หรือตกเป็นผู้ไร้ความสามารถ เว้นแต่ ผู้เป็นหุ้นส่วนที่ยังอยู่รับซื้อหุ้นของผู้ที่ตาย ล้มละลาย หรือตกเป็นผู้ไร้ความสามารถนั้นไว้

(ง) เมื่อศาลสั่งให้เลิกห้างหุ้นส่วนตามกฎหมายว่าด้วยหุ้นส่วนและบริษัท

ข้อ 24 การชำระบัญชีห้างหุ้นส่วน

เมื่อห้างหุ้นส่วนจำต้องเลิกกันไม่ว่าด้วยเหตุตามกฎหมายหรือเหตุตามสัญญาฉบับนี้ ให้ห้างหุ้นส่วนจัดการชำระบัญชี โดยดำเนินการตามลำดับ ดังต่อไปนี้

(ก) ชำระหนี้ทั้งหลายซึ่งค้างชำระแก่บุคคลภายนอก
(ข) ชดใช้เงินทดรองและค่าใช้จ่ายซึ่งผู้เป็นหุ้นส่วนได้ออกของตนไปเพื่อจัดการค้าของห้างหุ้นส่วน
(ค) คืนทุนทรัพย์ซึ่งผู้เป็นหุ้นส่วนแต่ละคนได้ลงเป็นหุ้น
(ง) ในกรณีที่ยังมีทรัพย์เหลืออยู่ ให้เฉลี่ยแจกเป็นกำไรในระหว่างผู้เป็นหุ้นส่วนทั้งหลาย

ข้อ 25 ผู้ชำระบัญชีของห้างหุ้นส่วน

ในการดำเนินการชำระบัญชีของห้างหุ้นส่วนนั้น ให้บุคคลซึ่งผู้เป็นหุ้นส่วนทั้งหลายร่วมกันกำหนดแต่งตั้งเป็นผู้ชำระบัญชีของห้างหุ้นส่วน อันอาจรวมถึงแต่ไม่จำกัดเพียง หุ้นส่วนผู้จัดการ หรือบุคคลอื่นใดที่เหมาะสม ณ เวลานั้น

ในกรณีที่หุ้นส่วนทั้งหลายร่วมกันกำหนดแต่งตั้งให้หุ้นส่วนผู้จัดการเป็นผู้ชำระบัญชีของห้างหุ้นส่วน ในกรณีเช่นนี้ ให้หุ้นส่วนผู้จัดการซึ่งเป็นผู้ชำระบัญชีย่อมมีอำนาจโดยตำแหน่งเดิมนั้นด้วย

ข้อ 26 หนังสือบอกกล่าว

เว้นแต่จะได้กำหนดไว้เป็นอย่างอื่นอันเป็นการเฉพาะไว้ในสัญญาฉบับนี้ หนังสือบอกกล่าวใดๆ ซึ่งห้างหุ้นส่วนจะต้องส่งถึงผู้เป็นหุ้นส่วนนั้น ให้ถือว่าส่งมอบโดยชอบแล้ว เมื่อ

(ก) ได้ส่งมอบให้แล้วถึงแก่ตัว
(ข) ส่งไปโดยทางไปรษณีย์ลงทะเบียนประเภทสลักหลังตอบรับถึงที่อยู่ของผู้เป็นหุ้นส่วนดังที่ปรากฏในสัญญาฉบับนี้

ในกรณีที่ผู้เป็นหุ้นส่วนคนใดคนหนึ่ง ย้ายหรือเปลี่ยนแปลงที่อยู่ ผู้เป็นหุ้นส่วนรายนั้นตกลงจะแจ้งให้ห้างหุ้นส่วนทราบเป็นลายลักษณ์อักษรภายใน 3 (สาม) วัน นับจากวันที่ย้ายหรือเปลี่ยนแปลงที่อยู่ มิฉะนั้นให้ถือตามที่อยู่ในสัญญาฉบับนี้เป็นสำคัญ

ข้อ 27 ความเป็นที่สุดของสัญญา

สัญญาฉบับนี้ เป็นความตกลงอันเป็นที่สุดระหว่างผู้เป็นหุ้นส่วนทุกคน การรับรอง ความเข้าใจ การพูดคุย หรือการเจรจาใดๆ ที่ได้ทำขึ้นก่อนวันที่ทำสัญญาฉบับนี้ระหว่างผู้เป็นหุ้นส่วนทั้งหลายที่ขัดหรือแย้งกับข้อความในสัญญาฉบับนี้ ให้ใช้ข้อความในสัญญาฉบับนี้บังคับ

ข้อ 28 การแก้ไขเปลี่ยนแปลง

การแก้ไขและเปลี่ยนแปลงข้อความในสัญญาฉบับนี้ไม่อาจทำได้ เว้นแต่ผู้เป็นหุ้นส่วนทุกคนจะได้ตกลงกันเป็นลายลักษณ์อักษรและให้ถือว่าข้อตกลงดังกล่าวเป็นส่วนหนึ่งของสัญญาฉบับนี้ด้วย

ข้อ 29 การโอนสิทธิ

เว้นแต่จะได้กำหนดไว้เป็นอย่างอื่นในสัญญาฉบับนี้ ผู้เป็นหุ้นส่วนคนหนึ่งคนใดตกลงจะไม่โอนสิทธิ หน้าที่ และ/หรือความรับผิดตามสัญญาฉบับนี้ให้แก่บุคคลใดโดยมิได้รับความยินยอมเป็นลายลักษณ์อักษรจากผู้เป็นหุ้นส่วนทุกคนเป็นการล่วงหน้า

ข้อ 30 การสละสิทธิ

การที่ผู้เป็นหุ้นส่วนคนหนึ่งคนใดไม่ใช้สิทธิหรือใช้สิทธิล่าช้าในเรื่องหนึ่งเรื่องใดหรือคราวหนึ่งคราวใดก็ดี มิให้ถือว่าผู้เป็นหุ้นส่วนคนนั้นสละสิทธิในเรื่องดังกล่าวและการที่ผู้เป็นหุ้นส่วนคนหนึ่งคนใดใช้สิทธิแต่เพียงบางส่วนหรือสละสิทธิในเรื่องหนึ่งเรื่องใดหรือคราวหนึ่งคราวใด ก็มิให้ถือว่าเป็นการสละสิทธิในเรื่องอื่นหรือในคราวอื่นด้วย

ข้อ 31 การแยกส่วนของสัญญา

หากมีข้อความหรือข้อตกลงใดในสัญญาฉบับนี้ที่ตกเป็นโมฆะ ไม่สมบูรณ์ หรือไม่มีผลบังคับใช้ ไม่ว่าด้วยเหตุใดๆ ก็ตาม ผู้เป็นหุ้นส่วนทั้งหลายตกลงให้ข้อความและข้อตกลงอื่นๆ ในสัญญาฉบับนี้ยังคงมีผลสมบูรณ์และผูกพันผู้เป็นหุ้นส่วนอยู่เสมือนหนึ่งว่าไม่มีส่วนที่เป็นโมฆะ ไม่สมบูรณ์หรือไม่มีผลบังคับใช้นั้นอยู่ในสัญญาฉบับนี้

ข้อ 32 กฎหมายที่ใช้บังคับ

สัญญาฉบับนี้ให้อยู่ภายใต้บังคับกฎหมายของประเทศไทย

ข้อ 33 การระงับข้อพิพาท

ในกรณีที่มีข้อพิพาทหรือข้อโต้แย้งใดๆ เกิดขึ้นระหว่างผู้เป็นหุ้นส่วนด้วยกันนั้น ผู้เป็นหุ้นส่วนคู่พิพาทนั้นจะร่วมกันปรึกษาหารือเพื่อกำหนดแนวทางในการยุติข้อพิพาทหรือข้อโต้แย้งดังกล่าวโดยไม่ชักช้า

ในกรณีที่ ผู้เป็นหุ้นส่วนคู่พิพาทไม่สามารถตกลงกันได้ ผู้เป็นหุ้นส่วนคู่พิพาทนั้นตกลงจะนำข้อพิพาทดังกล่าวขึ้นฟ้องต่อศาลในประเทศไทย



สัญญาฉบับนี้ คู่สัญญาทุกฝ่ายได้อ่านและเข้าใจข้อความและเงื่อนไขต่างๆ แห่งสัญญาฉบับนี้โดยละเอียดตลอดดีแล้ว เห็นว่าถูกต้องตามเจตนาทุกประการ เพื่อเป็นหลักฐานจึงได้ลงลายมือชื่อไว้เป็นสำคัญต่อหน้าพยาน (ถ้ามี)



ลงชื่อ_______________________หุ้นส่วนคนที่ 1
________



ลงชื่อ_______________________หุ้นส่วนคนที่ 2
________



ลงชื่อ_______________________พยาน (ถ้ามี)
(________________________________)



ลงชื่อ_______________________พยาน (ถ้ามี)
(________________________________)

ดูเอกสารของคุณ

หนังสือสัญญาจัดตั้งห้างหุ้นส่วนสามัญ

สัญญาจัดตั้งห้างหุ้นส่วนสามัญฉบับนี้ ซึ่งต่อไปนี้จะเรียกว่า "สัญญา" ทำขึ้นที่ ________ เมื่อวันที่ ________ ระหว่าง

________ ถือบัตรประจำตัวประชาชนเลขที่ ________ อยู่ที่ ________ ซึ่งต่อไปในสัญญาฉบับนี้จะเรียกว่า "หุ้นส่วนคนที่ 1" และ

________ ถือบัตรประจำตัวประชาชนเลขที่ ________ อยู่ที่ ________ ซึ่งต่อไปในสัญญาฉบับนี้จะเรียกว่า "หุ้นส่วนคนที่ 2"

โดยที่

(ก) หุ้นส่วนทั้ง 2 (สอง) คน มีความประสงค์จะดำเนินกิจการร่วมกัน และ
(ข) หุ้นส่วนทั้งหลายมีความประสงค์จะแบ่งปันผลกำไรจากการดำเนินกิจการที่ดำเนินร่วมกันนั้น

หุ้นส่วนทั้ง 2 (สอง) คนจึงตกลงเข้าทำสัญญาฉบับนี้ โดยมีข้อความดังต่อไปนี้

ข้อ 1 ประเภทห้างหุ้นส่วน

หุ้นส่วนทั้ง 2 (สอง) คน มีความประสงค์จะดำเนินกิจการร่วมกันเพื่อประสงค์จะแบ่งปันผลกำไรจากการดำเนินกิจการที่ดำเนินร่วมกันในรูปแบบของ ห้างหุ้นส่วนสามัญ ตามกฎหมายหุ้นส่วนและบริษัทประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ ซึ่งต่อไปในสัญญาฉบับนี้จะเรียกว่า "ห้างหุ้นส่วน"

ข้อ 2 ชื่อห้างหุ้นส่วน

หุ้นส่วนทั้งหลายตกลงใช้ชื่อในการดำเนินกิจการร่วมกันของห้างหุ้นส่วน โดยใช้ชื่อว่า

"________"

ข้อ 3 การจัดตั้งห้างหุ้นส่วน

ผู้เป็นหุ้นส่วนทั้งหลายตกลงให้จัดตั้งห้างหุ้นส่วนขึ้นในวันที่ ________

ข้อ 4 วัตถุประสงค์ของห้างหุ้นส่วน

หุ้นส่วนทั้งหลายตกลงให้ห้างหุ้นส่วนมีวัตถุประสงค์ในการประกอบกิจการ ดังต่อไปนี้

________

ข้อ 5 สำนักงานของห้างหุ้นส่วน

หุ้นส่วนทั้งหลายตกลงให้สำนักงานแห่งใหญ่ของห้างหุ้นส่วนตั้งอยู่ที่ ________

ข้อ 6 การลงหุ้นของผู้เป็นหุ้นส่วน

ผู้เป็นหุ้นส่วนทั้งหลายตกลงจะเข้าหุ้นในห้างหุ้นส่วนด้วยสินทรัพย์ในสัดส่วน ดังต่อไปนี้

(ก) ________ ตกลงจะลงหุ้นเป็น เงินมูลค่าหุ้นส่วนที่ลงทั้งสิ้น ________ บาท (________) และ

(ข) ________ ตกลงจะลงหุ้นเป็น เงินมูลค่าหุ้นส่วนที่ลงทั้งสิ้น ________ บาท (________)

รวมเป็นมูลค่าทุนที่ลงของห้างหุ้นส่วนทั้งสิ้น ________ บาท (________)

อนึ่ง เว้นแต่จะได้กำหนดไว้โดยเฉพาะเจาะจงไว้เป็นอย่างอื่น ผู้เป็นหุ้นส่วนทุกคนตกลงจะชำระสินทรัพย์ที่ลงหุ้นในส่วนของตนให้แก่ห้างหุ้นส่วนภายใน 7 (เจ็ด) วัน นับจากวันที่ทำสัญญาฉบับนี้

ในกรณีที่ผู้เป็นหุ้นส่วนละเลยไม่ส่งมอบส่วนลงหุ้นของตนตามจำนวนและภายในระยะเวลาที่กำหนดไว้ในวรรคก่อนหน้า และห้างหุ้นส่วนได้ส่งคำบอกกล่าวเป็นจดหมายไปรษณีย์ลงทะเบียนตอบรับไปยังผู้เป็นหุ้นส่วนคนนั้นเพื่อทวงถามให้ชำระและ/หรือส่งมอบส่วนลงหุ้นของตนภายในเวลาอันสมควรแล้ว หากปรากฏว่าผู้เป็นหุ้นส่วนคนดังกล่าวยังคงละเลยไม่ชำระและ/หรือส่งมอบส่วนลงหุ้นของตน ผู้เป็นหุ้นส่วนคนอื่นๆ ซึ่งได้ชำระเงิน/ส่งมอบทรัพย์สินส่วนของตนครบถ้วนแล้ว อาจลงเสียงให้เอาผู้เป็นหุ้นส่วนคนนั้นออกจากห้างหุ้นส่วนก็ได้ โดยใช้มติเสียงข้างมากของผู้เป็นหุ้นส่วนที่เหลือดังกล่าว

ข้อ 7 การจัดสรรเงินปันผล

ในกรณีที่ห้างหุ้นส่วนมีกำไรจากการประกอบกิจการของห้างหุ้นส่วน ผู้เป็นหุ้นส่วนทั้งหลายตกลงให้จัดสรรผลกำไรที่ได้จากการดำเนินกิจการของห้างหุ้นส่วนให้แก่ผู้เป็นหุ้นส่วนแต่ละรายโดยจัดสรร ตามสัดส่วนมูลค่าการลงหุ้นของผู้เป็นหุ้นส่วนแต่ละคน

หลักเกณฑ์และสัดส่วนการจัดสรรผลกำไรในวรรคก่อนนี้ ให้นำมาใช้ในสัดส่วนการรับผิดชอบในหนี้สินกรณีที่ห้างหุ้นส่วนขาดทุนด้วยเช่นกัน

ข้อ 8 การจ่ายเงินปันผล

ในกรณีที่ห้างหุ้นส่วนมีกำไรจากการประกอบกิจการของห้างหุ้นส่วน ผู้เป็นหุ้นส่วนทั้งหลายตกลงให้ห้างหุ้นส่วนจัดสรรและจ่ายเงินปันผลแก่ผู้เป็นหุ้นส่วน เป็นประจำทุกๆ เดือน

ในการจ่ายเงินปันผล ให้ห้างหุ้นส่วนจ่ายให้แก่ผู้เป็นหุ้นส่วนโดยรูปแบบ ช่องทาง และวิธีการที่หุ้นส่วนผู้จัดการเห็นสมควร โดยคำนึงถึงความสะดวก รวดเร็ว และความปลอดภัยเป็นสำคัญ อันรวมถึงแต่ไม่จำกัดเพียง การชำระโดยเงินสด การนําเข้าบัญชีเงินฝากธนาคาร เช็คสั่งจ่ายระบุชื่อผู้ถือและขีดคร่อม "นำเข้าบัญชีผู้รับเงินเท่านั้น" หรือ "A/C Payee Only"

ข้อ 9 หุ้นส่วนผู้จัดการ

ในการจัดการงานของห้างหุ้นส่วน ผู้เป็นหุ้นส่วนทั้งหลายตกลงกันให้ ผู้เป็นหุ้นส่วนทุกคนเป็นผู้มีอำนาจจัดการงานของห้างหุ้นส่วน โดยที่ ผู้เป็นหุ้นส่วนแต่ละคนนั้นล้วนสามารถจัดการงานของห้างหุ้นส่วนได้ในทุกๆ เรื่อง เว้นแต่ ผู้เป็นหุ้นส่วนคนหนึ่งคนใดทักท้วงการจัดการงานดังกล่าวของผู้เป็นหุ้นส่วนคนนั้น ซึ่งต่อไปนี้สัญญาฉบับนี้จะเรียกว่า "หุ้นส่วนผู้จัดการ"

ข้อ 10 การบริหารจัดการห้างหุ้นส่วน

ผู้เป็นหุ้นส่วนผู้จัดการจำต้องจัดการงานของห้างหุ้นส่วนด้วยความซื่อสัตย์ สุจริต โปร่งใส ความรอบคอบ และความระมัดระวังในการดำเนินกิจการต่างๆ ใช้ความเอื้อเฟื้อสอดส่องอย่างเช่นบุคคลค้าขายผู้ประกอบด้วยความระมัดระวัง

ข้อ 11 ค่าตอบแทนของหุ้นส่วนผู้จัดการ

ในการจัดการงานของห้างหุ้นส่วน ผู้เป็นหุ้นส่วนทั้งหลายตกลงกันให้ หุ้นส่วนผู้จัดการไม่มีสิทธิได้รับ ค่าตอบแทนของหุ้นส่วนผู้จัดการ อันรวมถึงแต่ไม่จำกัดเพียง เงินเดือนหรือบำเหน็จใดๆ

ข้อ 12 การเปลี่ยนแปลงหุ้นส่วนผู้จัดการ

(ก) การตั้งหุ้นส่วนผู้จัดการ

ให้การตั้งหุ้นส่วนผู้จัดการดำเนินการโดยใช้วิธีการ หลักเกณฑ์ และเงื่อนไขการตั้งหุ้นส่วนผู้จัดการตามที่ประชุมผู้เป็นหุ้นส่วนกำหนด

(ข) การสิ้นสุดการเป็นหุ้นส่วนผู้จัดการ

ให้ความเป็นหุ้นส่วนผู้จัดการสิ้นสุดลง ในกรณีดังต่อไปนี้

(1) เมื่อหุ้นส่วนผู้จัดการลาออก

(2) เมื่อมติของที่ประชุมผู้เป็นหุ้นส่วนมีมติให้ถอดถอนหุ้นส่วนผู้จัดการคนนั้น

(3) เมื่อเป็นไปตามวิธีการ หลักเกณฑ์ และเงื่อนไขการถอดถอนหุ้นส่วนผู้จัดการตามที่ประชุมผู้เป็นหุ้นส่วนกำหนด

(4) เมื่อหุ้นส่วนผู้จัดการตาย ล้มละลาย หรือตกเป็นผู้ไร้ความสามารถ

ข้อ 13 การประชุมผู้เป็นหุ้นส่วน

ให้ห้างหุ้นส่วนจัดให้มีการประชุมผู้เป็นหุ้นส่วนขึ้นในกรณี ดังต่อไปนี้

(ก) เมื่อมีเหตุอันสมควรและผู้เป็นหุ้นส่วนคนหนึ่งคนใดได้นัดเรียกให้มีการประชุมผู้เป็นหุ้นส่วน
(ข) เมื่อมีเหตุที่หุ้นส่วนผู้จัดการจำเป็นต้องได้รับความเห็นชอบและ/หรือความยินยอมของผู้เป็นหุ้นส่วนทุกคนก่อนการดำเนินการนั้นๆ

ข้อ 14 การออกเสียงหรือลงมติของห้างหุ้นส่วน

เว้นแต่จะได้กำหนดไว้โดยเฉพาะเจาะจงไว้เป็นอย่างอื่น ในการออกเสียงหรือลงมติในเรื่องใดๆ ในการประชุมผู้เป็นหุ้นส่วนให้ถือมติเสียงข้างมากของที่ประชุมเป็นมติของห้างหุ้นส่วน

โดยที่ ผู้เป็นหุ้นส่วนคนหนึ่งมีเสียงเท่ากับสัดส่วนมูลค่าการลงหุ้นส่วนของตน

ข้อ 15 หุ้นส่วนเข้าและหุ้นส่วนออก

(ก) หุ้นส่วนเข้า

บุคคลผู้อื่นอาจเข้ามาเป็นหุ้นส่วนในห้างหุ้นส่วนตามสัญญาฉบับนี้ได้โดยมติเสียงส่วนใหญ่ของที่ประชุมผู้เป็นหุ้นส่วนไม่น้อยกว่าร้อยละ 75 (เจ็ดสิบห้า) ของเสียงทั้งหมด โดยให้ผู้เป็นหุ้นส่วนหนึ่งคนมีเสียงเท่ากับมูลค่าการลงหุ้นส่วนของตน

ในกรณีเช่นนี้ ผู้เข้าเป็นหุ้นส่วนในห้างหุ้นส่วนนั้นย่อมต้องรับผิดในหนี้ใดๆ ซึ่งห้างหุ้นส่วนได้ก่อให้เกิดขึ้นก่อนที่ตนจะเข้ามาเป็นหุ้นส่วนด้วย

(ข) หุ้นส่วนออก

ผู้เป็นหุ้นส่วนอาจออกจากการเป็นหุ้นส่วนในห้างหุ้นส่วนตามสัญญาฉบับนี้ ได้โดยมติเสียงส่วนใหญ่ของที่ประชุมผู้เป็นหุ้นส่วนไม่น้อยกว่าร้อยละ 75 (เจ็ดสิบห้า) ของเสียงทั้งหมด โดยให้ผู้เป็นหุ้นส่วนหนึ่งคนมีเสียงเท่ากับมูลค่าการลงหุ้นส่วนของตน

ในกรณีเช่นนี้ ผู้เป็นหุ้นส่วนซึ่งได้ออกจากการเป็นหุ้นส่วนไปแล้วยังคงต้องรับผิดในหนี้ซึ่งห้างหุ้นส่วนได้ก่อให้เกิดขึ้นก่อนที่ตนได้ออกจากหุ้นส่วนนั้นไป

ข้อ 16 การเพิ่มทุน ลดทุน และเปลี่ยนประเภทสินทรัพย์ที่ลงหุ้น

ในการเพิ่มทุน ลดทุน และ/หรือเปลี่ยนประเภทสินทรัพย์ที่ลงหุ้นในห้างหุ้นส่วนใดๆ ผู้เป็นหุ้นส่วนทั้งหลายตกลงกันให้จะกระทำได้ก็ต่อเมื่อที่ประชุมผู้เป็นหุ้นส่วนมีมติเห็นชอบไม่น้อยกว่าร้อยละ 75 (เจ็ดสิบห้า) ของเสียงทั้งหมด ให้ดำเนินการเช่นว่านั้น โดยให้ผู้เป็นหุ้นส่วนหนึ่งคนมีเสียงเท่ากับมูลค่าการลงหุ้นส่วนของตน

ข้อ 17 การค้าแข่ง

เว้นแต่ ผู้เป็นหุ้นส่วนได้รับความยินยอมของผู้เป็นหุ้นส่วนทั้งหลายเป็นอย่างอื่น ผู้เป็นหุ้นส่วนตกลงจะ

(ก) ไม่ประกอบกิจการหรือให้บริการในลักษณะเดียวกันหรือคล้ายคลึงกับกิจการของห้างหุ้นส่วนอันเป็นการแข่งขันโดยตรงกับกิจการของห้างหุ้นส่วนตามสัญญาฉบับนี้
(ข) ไม่เป็นผู้เกี่ยวข้องกับกิจการที่มีลักษณะดังกล่าวใน ข้อ (ก) อันรวมถึงแต่ไม่จำกัดเพียง ผู้ถือหุ้น หุ้นส่วน กรรมการ หุ้นส่วนผู้จัดการ ลูกจ้าง พนักงาน ที่ปรึกษา หรือตัวแทนใดๆ

ในกรณีที่ผู้เป็นหุ้นส่วนคนหนึ่งคนใดได้ปฏิบัติฝ่าฝืนความในวรรคก่อน ผู้เป็นหุ้นส่วนทั้งหลายย่อมมีสิทธิที่จะเรียกเอาผลกำไรจากผู้เป็นหุ้นส่วนผู้นั้นได้ทั้งสิ้นหรือเรียกเอาค่าสินไหมทดแทนจากการที่ห้างหุ้นส่วนได้รับความเสียหายจากการประกอบกิจการหรือให้บริการเช่นว่านั้น

ข้อ 18 รอบปีบัญชีของห้างหุ้นส่วน

ให้ห้างหุ้นส่วนมีรอบปีบัญชีของห้างหุ้นส่วน โดยเริ่มต้นตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม ถึงวันที่ 31 ธันวาคม ของทุกปี

ข้อ 19 5885222582

58852225822822228588588522 588522258228222285885885222882255228288258288585282582525885582888888888 5885222582282222858858

(________) 58852225822822228588588522288225522828825828858528 58852225822822228
(________) 5885222582282222858858852228822552282 588522258228222285885885222882255 588522258228222

ข้อ 20 588522258228222285885

588522258228222285885885222882255228288258288585282582 588522258228 5885222582282222858858852228822552282882582885852825825258855828888888888888888888

58852 5885222582282222858858852228822 5 5885222582282222858858852228822 58852225822822228588588522288225522828825828858528258252588558288888888888888888888888

ข้อ 21 ความรับผิดของห้างหุ้นส่วน

ภายใต้ข้อสัญญาว่าด้วยความรับผิดของผู้เป็นหุ้นส่วน การใดๆ ที่ผู้เป็นหุ้นส่วนคนหนึ่งคนใดได้จัดการงานไปในทางที่เป็นธรรมดาการค้าขายของห้างหุ้นส่วนนั้น ผู้เป็นหุ้นส่วนหมดทุกคนย่อมมีความผูกพันในการจัดการนั้นๆ ด้วย และผู้เป็นหุ้นส่วนทั้งหลายจะรับผิดร่วมกันโดยไม่จำกัดจำนวนในการชำระหนี้อันได้ก่อให้เกิดขึ้นจากการจัดการเช่นว่านั้น

ข้อ 22 ความรับผิดของผู้เป็นหุ้นส่วน

ในกรณีที่

(ก) ผู้เป็นหุ้นส่วนซึ่งไม่ใช่หุ้นส่วนผู้จัดการสอดเข้ามาจัดการงานของห้างหุ้นส่วน
(ข) หุ้นส่วนผู้จัดการจัดการงานของห้างหุ้นส่วนโดยล่วงขอบอำนาจของตนหรือโดยไม่มีอำนาจ

หากการจัดการงานนั้นขัดต่อประโยชน์ของห้างหุ้นส่วน ขัดต่อความประสงค์อันแท้จริงของห้างหุ้นส่วนหรือตามที่จะพึงสันนิษฐานได้ว่าเป็นความประสงค์ของห้างหุ้นส่วน หรือมิได้เป็นไปเพื่อปัดป้องอันตรายจากห้างหุ้นส่วน ผู้เป็นหุ้นส่วนที่จัดการงานนั้นตกลงจะชดใช้ค่าสินไหมทดแทนให้แก่ห้างหุ้นส่วนเพื่อความเสียหายอย่างใดๆ อันเกิดจากการที่จัดการงานนั้นทั้งสิ้น

ทั้งนี้ ตามกฎหมายว่าด้วยจัดการงานนอกสั่ง

ข้อ 23 การเลิกห้างหุ้นส่วน

ห้างหุ้นส่วนตามสัญญาฉบับนี้ อาจเลิกกันในกรณี ดังต่อไปนี้

(ก) เมื่อห้างหุ้นส่วนได้ดำเนินการโดยบรรลุวัตถุประสงค์แห่งการจัดตั้งห้างหุ้นส่วนเช่นว่านั้นแล้วทั้งสิ้นตามสัญญาฉบับนี้ ในกรณีที่วัตถุประสงค์ของห้างหุ้นส่วนกำหนดให้ดำเนินการอย่างใดอย่างหนึ่งไว้โดยเฉพาะเจาะจง

(ข) เมื่อผู้เป็นหุ้นส่วนคนหนึ่งคนใดบอกเลิกห้างหุ้นส่วนเมื่อสิ้นรอบปีบัญชีของห้างหุ้นส่วนนั้น และผู้เป็นหุ้นส่วนนั้นได้บอกกล่าวความจำนงที่จะเลิกแก่ผู้เป็นหุ้นส่วนคนอื่นๆ ล่วงหน้าไม่น้อยกว่า 6 (หก) เดือน เว้นแต่ ผู้เป็นหุ้นส่วนที่ยังอยู่รับซื้อหุ้นของผู้ที่ออกจากหุ้นส่วนนั้นไว้

(ค) เมื่อผู้เป็นหุ้นส่วนคนใดคนหนึ่งตาย ล้มละลาย หรือตกเป็นผู้ไร้ความสามารถ เว้นแต่ ผู้เป็นหุ้นส่วนที่ยังอยู่รับซื้อหุ้นของผู้ที่ตาย ล้มละลาย หรือตกเป็นผู้ไร้ความสามารถนั้นไว้

(ง) เมื่อศาลสั่งให้เลิกห้างหุ้นส่วนตามกฎหมายว่าด้วยหุ้นส่วนและบริษัท

ข้อ 24 การชำระบัญชีห้างหุ้นส่วน

เมื่อห้างหุ้นส่วนจำต้องเลิกกันไม่ว่าด้วยเหตุตามกฎหมายหรือเหตุตามสัญญาฉบับนี้ ให้ห้างหุ้นส่วนจัดการชำระบัญชี โดยดำเนินการตามลำดับ ดังต่อไปนี้

(ก) ชำระหนี้ทั้งหลายซึ่งค้างชำระแก่บุคคลภายนอก
(ข) ชดใช้เงินทดรองและค่าใช้จ่ายซึ่งผู้เป็นหุ้นส่วนได้ออกของตนไปเพื่อจัดการค้าของห้างหุ้นส่วน
(ค) คืนทุนทรัพย์ซึ่งผู้เป็นหุ้นส่วนแต่ละคนได้ลงเป็นหุ้น
(ง) ในกรณีที่ยังมีทรัพย์เหลืออยู่ ให้เฉลี่ยแจกเป็นกำไรในระหว่างผู้เป็นหุ้นส่วนทั้งหลาย

ข้อ 25 ผู้ชำระบัญชีของห้างหุ้นส่วน

ในการดำเนินการชำระบัญชีของห้างหุ้นส่วนนั้น ให้บุคคลซึ่งผู้เป็นหุ้นส่วนทั้งหลายร่วมกันกำหนดแต่งตั้งเป็นผู้ชำระบัญชีของห้างหุ้นส่วน อันอาจรวมถึงแต่ไม่จำกัดเพียง หุ้นส่วนผู้จัดการ หรือบุคคลอื่นใดที่เหมาะสม ณ เวลานั้น

ในกรณีที่หุ้นส่วนทั้งหลายร่วมกันกำหนดแต่งตั้งให้หุ้นส่วนผู้จัดการเป็นผู้ชำระบัญชีของห้างหุ้นส่วน ในกรณีเช่นนี้ ให้หุ้นส่วนผู้จัดการซึ่งเป็นผู้ชำระบัญชีย่อมมีอำนาจโดยตำแหน่งเดิมนั้นด้วย

ข้อ 26 หนังสือบอกกล่าว

เว้นแต่จะได้กำหนดไว้เป็นอย่างอื่นอันเป็นการเฉพาะไว้ในสัญญาฉบับนี้ หนังสือบอกกล่าวใดๆ ซึ่งห้างหุ้นส่วนจะต้องส่งถึงผู้เป็นหุ้นส่วนนั้น ให้ถือว่าส่งมอบโดยชอบแล้ว เมื่อ

(ก) ได้ส่งมอบให้แล้วถึงแก่ตัว
(ข) ส่งไปโดยทางไปรษณีย์ลงทะเบียนประเภทสลักหลังตอบรับถึงที่อยู่ของผู้เป็นหุ้นส่วนดังที่ปรากฏในสัญญาฉบับนี้

ในกรณีที่ผู้เป็นหุ้นส่วนคนใดคนหนึ่ง ย้ายหรือเปลี่ยนแปลงที่อยู่ ผู้เป็นหุ้นส่วนรายนั้นตกลงจะแจ้งให้ห้างหุ้นส่วนทราบเป็นลายลักษณ์อักษรภายใน 3 (สาม) วัน นับจากวันที่ย้ายหรือเปลี่ยนแปลงที่อยู่ มิฉะนั้นให้ถือตามที่อยู่ในสัญญาฉบับนี้เป็นสำคัญ

ข้อ 27 ความเป็นที่สุดของสัญญา

สัญญาฉบับนี้ เป็นความตกลงอันเป็นที่สุดระหว่างผู้เป็นหุ้นส่วนทุกคน การรับรอง ความเข้าใจ การพูดคุย หรือการเจรจาใดๆ ที่ได้ทำขึ้นก่อนวันที่ทำสัญญาฉบับนี้ระหว่างผู้เป็นหุ้นส่วนทั้งหลายที่ขัดหรือแย้งกับข้อความในสัญญาฉบับนี้ ให้ใช้ข้อความในสัญญาฉบับนี้บังคับ

ข้อ 28 การแก้ไขเปลี่ยนแปลง

การแก้ไขและเปลี่ยนแปลงข้อความในสัญญาฉบับนี้ไม่อาจทำได้ เว้นแต่ผู้เป็นหุ้นส่วนทุกคนจะได้ตกลงกันเป็นลายลักษณ์อักษรและให้ถือว่าข้อตกลงดังกล่าวเป็นส่วนหนึ่งของสัญญาฉบับนี้ด้วย

ข้อ 29 การโอนสิทธิ

เว้นแต่จะได้กำหนดไว้เป็นอย่างอื่นในสัญญาฉบับนี้ ผู้เป็นหุ้นส่วนคนหนึ่งคนใดตกลงจะไม่โอนสิทธิ หน้าที่ และ/หรือความรับผิดตามสัญญาฉบับนี้ให้แก่บุคคลใดโดยมิได้รับความยินยอมเป็นลายลักษณ์อักษรจากผู้เป็นหุ้นส่วนทุกคนเป็นการล่วงหน้า

ข้อ 30 การสละสิทธิ

การที่ผู้เป็นหุ้นส่วนคนหนึ่งคนใดไม่ใช้สิทธิหรือใช้สิทธิล่าช้าในเรื่องหนึ่งเรื่องใดหรือคราวหนึ่งคราวใดก็ดี มิให้ถือว่าผู้เป็นหุ้นส่วนคนนั้นสละสิทธิในเรื่องดังกล่าวและการที่ผู้เป็นหุ้นส่วนคนหนึ่งคนใดใช้สิทธิแต่เพียงบางส่วนหรือสละสิทธิในเรื่องหนึ่งเรื่องใดหรือคราวหนึ่งคราวใด ก็มิให้ถือว่าเป็นการสละสิทธิในเรื่องอื่นหรือในคราวอื่นด้วย

ข้อ 31 การแยกส่วนของสัญญา

หากมีข้อความหรือข้อตกลงใดในสัญญาฉบับนี้ที่ตกเป็นโมฆะ ไม่สมบูรณ์ หรือไม่มีผลบังคับใช้ ไม่ว่าด้วยเหตุใดๆ ก็ตาม ผู้เป็นหุ้นส่วนทั้งหลายตกลงให้ข้อความและข้อตกลงอื่นๆ ในสัญญาฉบับนี้ยังคงมีผลสมบูรณ์และผูกพันผู้เป็นหุ้นส่วนอยู่เสมือนหนึ่งว่าไม่มีส่วนที่เป็นโมฆะ ไม่สมบูรณ์หรือไม่มีผลบังคับใช้นั้นอยู่ในสัญญาฉบับนี้

ข้อ 32 กฎหมายที่ใช้บังคับ

สัญญาฉบับนี้ให้อยู่ภายใต้บังคับกฎหมายของประเทศไทย

ข้อ 33 การระงับข้อพิพาท

ในกรณีที่มีข้อพิพาทหรือข้อโต้แย้งใดๆ เกิดขึ้นระหว่างผู้เป็นหุ้นส่วนด้วยกันนั้น ผู้เป็นหุ้นส่วนคู่พิพาทนั้นจะร่วมกันปรึกษาหารือเพื่อกำหนดแนวทางในการยุติข้อพิพาทหรือข้อโต้แย้งดังกล่าวโดยไม่ชักช้า

ในกรณีที่ ผู้เป็นหุ้นส่วนคู่พิพาทไม่สามารถตกลงกันได้ ผู้เป็นหุ้นส่วนคู่พิพาทนั้นตกลงจะนำข้อพิพาทดังกล่าวขึ้นฟ้องต่อศาลในประเทศไทย



สัญญาฉบับนี้ คู่สัญญาทุกฝ่ายได้อ่านและเข้าใจข้อความและเงื่อนไขต่างๆ แห่งสัญญาฉบับนี้โดยละเอียดตลอดดีแล้ว เห็นว่าถูกต้องตามเจตนาทุกประการ เพื่อเป็นหลักฐานจึงได้ลงลายมือชื่อไว้เป็นสำคัญต่อหน้าพยาน (ถ้ามี)



ลงชื่อ_______________________หุ้นส่วนคนที่ 1
________



ลงชื่อ_______________________หุ้นส่วนคนที่ 2
________



ลงชื่อ_______________________พยาน (ถ้ามี)
(________________________________)



ลงชื่อ_______________________พยาน (ถ้ามี)
(________________________________)